เพชรบูรณ์-ผู้ว่าฯควงภรรยาลงพื้นที่ชมทุ่งนางพญาโคร่งภูทับเบิก ตะลึงความสวยงามเตรียมจัดหนักวางแผนโปรโมทปีหน้า กำชับให้ช่วยกันปรามนักท่องเที่ยวอย่าปีนต้นถ่ายเซลฟี่หรือเด็ดดอกหักกิ่งติดมือกลับบ้าน ย้ำประเด็นดรามาไม่ถึงกับห้ามรถนทท.เข้าไปเด็ดขาดเพียงแต่เชิญชวนให้ใช้รถบริการท่องเที่ยวแทน
วันที่ 23 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากความงดงามของทุ่งนางพญาเสือโคร่งที่ภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ กระทั่งกลายเป็นกระแสทำให้นักท่องเที่ยวแห่ไปชมแหล่งท่องเที่ยวใหม่และเป็นอันซีนเพชรบูรณ์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นำนางอังคณา หัตถกิจโกศล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดและภรรยาพร้อมคณะ ลงพื้นที่ไปสำรวจพร้อมชมทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่งภูทับเบิกเมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อวางแผนเตรียมจัดกิจกรรมโปรโมทและจัดอีเว้นท์ เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมความงดงามของทุ่งซากุระเมืองไทยในปีต่อไป และจากความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่งที่เบ่งบานเต็มต้น ทำให้ทั้งสองถึงกับต้องหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาผลัดเปลี่ยนกันถ่ายเซลฟี่เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก
โดยนายพิบูลย์กล่าวว่า ต้องการไปสำรวจและเก็บข้อมูลเพื่อจะหาแนวทางพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ หรืออันซีนของเพชรบูรณ์ในโอกาสต่อไป นอกจากนี้ในปีถัดไปยังต้องมีการจัดกิจกรรมโปรโมทหรือจัดอีเว้นท์ เพื่อเชิญคนมาเที่ยวที่ในจุดนี้ เพราะห้วงเวลาที่ดอกนางพญาเสือโคร่งจะผลิดอกบานสะพรั่ง จะอยู่ในราวหลังปีใหม่แล้วโดยมีระยะเวลาราว 1 เดือนซึ่งแต่ละต้นจะสลับกันไป แต่แปลงที่ภูทับเบิกมีดอกพญาเสือโคร่งค่อนข้างเยอะมากและต้องเชิญทางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเข้าร่วมหารือด้วย เพราะอยู่ในพื้นที่เขตอุทยานฯจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการร่วมกัน แต่ทั้งนี้จะต้องคงความเป็นธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด อย่างดีคงมีแค่การถากถางต้นหญ้าบริเวณใต้ต้นไม่ให้เป็นป่ารกชัฏ เพื่อให้นักท่องเที่ยวไปนั่งพักผ่อนหรือมีมุมถ่ายรูปถ่ายเซลฟี่กันสวยๆงามๆเป็นต้น นอกจากนี้ในปีหน้าอาจจะให้รถต่างๆจอดไว้นอกแปลง และให้เดินเข้าไปชมน่าจะดีกว่าแต่อย่างไรก็คงจะต้องพูดคุยกันอีกที
นายพิบูลย์กล่าวย้ำว่า “ขนาดผมไปเห็นดอกนางพญาเสือโคร่งที่กำลังบานสะพรั่งเต็มภูแล้วยังรู้สึกประทับใจมากซึ่งถือว่าเยอะทีเดียว ครั้งแรกคิดว่าคงไม่มากแต่พอไปถึงแปลงต้องบอกว่าเยอะจริงๆ ขณะเดียวกันตลอดเส้นทางทางเข้า ก็ยังพบเห็นต้นนางพญาเสือโคร่งตามริมถนนหรือตามบ้านพัก ออกดอกบานสะพรั่งเป็นช่วงๆไปตลอดเส้นทางด้วยเช่นกัน”นายพิบูลย์กล่าวและว่า ส่วนเรื่องนักท่องเที่ยวปีนต้นถ่ายรูปเซลฟี่หรือหักกิ่งและเด็ดดอกซากุระเมืองไทยติดมือกลับบ้าน ได้กำชับให้คนในพื้นที่ไปแล้วให้ช่วยกันดูแลหรือให้แจ้งเตือนหรือห้ามปรามนักท่องเที่ยวอย่ากระทำ เพราะนอกจากจะทำเกิดอันตรายแล้วหากทุกคนทำเลียนแบบ ก็จะเป็นการทำลายสิ่งสวยๆงามๆจนทำให้คนที่มาทีหลังหมดโอกาสได้ชื่นชม”
ส่วนที่เกิดเป็นประเด็นดรามาเรื่องการห้ามหรือกีดกันนักท่องเที่ยวไม่ให้ขับรถเข้าไป นายพิบูลย์กล่าวว่า “ก็ไม่ได้ถึงกับห้ามทีเดียวและทางหมู่บ้านก็ไม่มีอำนาจจะไปห้ามคนเข้า เพราะเป็นเขตพื้นที่อุทยานฯเพียงแต่ขอจัดระบบเพื่อความเรียบร้อย เพราะหากนักท่องเที่ยวแห่นำรถเข้าไปจอด นอกจากจะดูไม่ดีและมุมถ่ายรูปเซลฟี่จะออกมาไม่สวยแล้ว ยังจะทำให้มีปัญหารถติดขึ้นอีกเนื่องเพราะเส้นทางถนนคับแคบ แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ก็ยังมีรถนักท่องเที่ยวเข้าไปอยู่ โดยไม่ถึงกับห้ามเด็ดขาด เพียงแต่เชิญชวนให้นำรถจอดไว้และไปใช้รถบริการท่องเที่ยวพาเข้าไปแทน โดยค่าเหมารถไปคันละ 400 บาทขึ้นได้ 10 คน หากไปกันน้อยอาจจะดูแพงหน่อย แต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกอย่างและเส้นทางไม่ดี หากนำรถเข้าไปอาจทำให้รถพังหรือชำรุดเสียหายไม่คุ้มกับค่าซ่อมแซม”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: