เพชรบูรณ์-จับบิ๊กล็อตค้าซากสัตว์ป่า รวบ 4 ผู้ต้องหาย่ามใจวางซากสัตว์ป่าวางขายโจ่งครึ่มกลางตลาดสดย่านกลางเมืองหล่มสัก คาดสัตว์ป่าถูกล่าจากป่าน้ำหนาว
วันที่ 2 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งการให้นายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ,หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงพื้นที่วางแผนอำนวยการบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มขบวนการลักลอบล่าสัตว์ป่า ในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นขบวนการใหญ่ โดยได้ประสานงานร่วม นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) พันเอกพงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. และนายชัยชาญ ศรียงค์ .ผอ,ศปป3,นำกำลังเจ้าหน้าที่จากชุดพญาเสือ ,เจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาค้อ ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหล่มสัก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบการลักลอบค้าซากสัตว์ป่า
หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดการข่าวแจ้งว่า จะมีการนำสัตว์ป่าจำนวนมาก มาลักลอบจำหน่ายบริเวณตลาดสดกลางเมืองหล่มสัก กำลังเจ้าหน้าที่จึงปูพรมบุกเข้าตลาดดังกล่าว โดยเข้าชาร์ทรถยนต์เป้าหมายจำนวน 4 คันโดยพร้อมเพียงกัน ซึ่งพบพ่อค้าเหล่านี้วางซากสัตว์ป่าขายกันโจ่งครึ่ม จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พบซากอีเห็น ไก่ป่า ตุ่น พญากระรอก กระรอก และอื่นๆอีกจำนวนมากบรรจุในลังน้ำแข็ง นอกจากนี้พบชิ้นเนื้อบรรจุในถุง ตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าน่าจะเป็นเนื้อเก้ง เนื่องจากพบเศษเส้นขนติดบริเวณเนื้อ
โดยในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิด 4 คน ได้แก่นางคำมูล ขวัญพรม อายุ 55 ปี , นายปรีชา เรือนเต็ม อายุ 44 ปี , นายรุ่งเพชร ดวงใจคำ อายุ 35 ปี และนายเครือวัลย์ กันยามา อายุ 59 ปี โดยผู้ต้องหาทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านห้วยระหงส์ หมู่ 7 ตำบลปากช่อง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งพื้นที่อยู่ติดกับเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาและซากสัตว์ของกลางไปที่หน่วยป้องกันรักษาป่าน้ำชุน เพื่อสิบปาดคำผู้ต้องหาพร้อมคัดแยกชนิดของซากสัตว์ป่าที่ถูกชำแหละ โดยเบื้องต้นตรวจนับมีซากไก่ป่า 26 ตัว ซากกระรอก 62 ตัว ซากอีเห็น จำนวน 2 ตัว 80 ชิ้น, ซากตัวอ้น 2 ตัว,ซากตัวตุ่น 25 ตัว,ซากหนังเก้ง 10 ชิ้น ,กบทูด ประมาณ 10 กิโลกรัม พร้อมอุปกรณ์ของกลาง ได้แก่ถังแช่น้ำแข็ง จำนวน 3 ถังและกล่องโฟม จำนวน 3 กล่อง , กะละมัง จำนวน 3 ใบ ,รถยนตร์จำนวน 4 คัน
ต่อมาในช่วงดึกของคืนวันเดียวกัน นายศักดิชัย จงกิจวิวัฒน์ ผอ.สปฟ(อส), นายชีวะภาพ ชีวธรรม และพ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ เดินทางไปร่วมตรวจสอบซากสัตว์ป่าของกลางที่ตรวจยึดได้ และวอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม โดยพ่อค้าซากสัตว์ป่าต่างให้การโดยอ้างว่า รับซื้อซากสัตว์ป่าทั้งหมดนี้มาจากชาวบ้านที่วางขายตามตลาดนัดตามหมู่บ้านที่ตั้งอยู่รอบๆเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จากนั้นรวบรวมมาขายที่ตลาดหล่มสัก และพยายามปฏิเสธว่าไม่รู้จักนายพราน แม้เจ้าหน้าที่จะคาดคั้นสอบปากคำแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตามก่อนจะควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.หล่มสักดำเนินคดี นายศักดิชัย จงกิจวิวัฒน์ ผอ.สปฟ(อส) ได้สั่งการให้คณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำการขยายผลการตรวจสอบไปแยังเป้าหมายเพื่อตัดตอนวงจรการล่าและต้าสัตว?ป่าเหล่านี้ ซึ่งล่สุดฝ่ายความมั่นคงพบข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว โดยลงพื้นที่อำนวยการพร้อมบูรณาการกับ ชุดปฎิบัติการๆของ ,ศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า(ศปก.พป)ร่วมปฎิบัติการอย่างต่อเนื่อง
