เพชรบูรณ์-ส่อช้ำอีก! ฝนหลงฤดูรอบ 2 ผู้ปกครองโอดครวญ!”โลกวิปริตหรืออากาศแปรปรวน” ส่วนเจ้าของสวนจ่อกระอักอีกรอบ หลังมะขามหวานถูกฝนหวั่นเกิดเชื้อรา จนกระทบคุณภาพราคาตกต่ำ(มีคลิป)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดสภาพอากาศแปรปรวนจนทำให้มีฝนหลงฤดูตกหนักกระจายทั่วพื้นที่ในเขต จ.เพชรบูรณ์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยเฉพาะเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันแรกของสัปดาห์ ได้มีฝนตกกระหน่ำในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จนส่งผลให้บรรดาผู้ปกครองที่ต้องขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์พาบุตรหลานไปส่งโรงเรียนเกิดความไม่สะดวก ประกอบกับยังอยู่ในช่วงปลายฤดูหนาวและไม่ได้ติดตามพยากรณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา ทำให้ไม่ระแคะระคายว่าอาจจะมีฝนตกลงมาโดยฉับพลัน จนทำให้ผู้ปกครองเหล่านี้ไม่ได้ตระเตรียมอุปกรณ์ทั้งเสื้อกันฝนและร่มติดตัวไปด้วย ในขณะที่ผู้ปกครองบางรายซึ่งถึงกับขับรถสามล้อพาบุตรหลานฝ่าสายฝนที่ตกกระหน่ำไปส่งโรงเรียน โดยอาศัยเพียงเสื้อคลุมป้องกันสายฝนให้กับบุตรหลานของตนเองเท่านั้น ยังถึงกับต้องโอคครวญว่าโลกวิปริตหรืออากาศแปรปรวนกันแน่
ส่วนสถานการณ์สวนมะขามหวานในเขตพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ปรากฏว่าหลังมีฝนหลงฤดูตกกระหน่ำลงมาในรอบนี้ ทำให้เกษตรกรเจ้าของสวนต่างพากันแสดงความวิตกโดยเกรงว่าหากฝนยังตกต่อเนื่องต่อไปโดยไม่มีแดดออก ก็จะสร้างผลกระทบจนทำให้เกิดความเสียหายขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมปี 2560 ที่ผ่านมา ฝนหลงฤดูที่ตกต่อเนื่องเกือบ 4 วัน ได้เคยสร้างความเสียหายให้แก่เกษตรกรเจ้าของสวนมะขามหวานและพ่อค้าเหมาสวนมาแล้ว จนทำให้เกษตรกรและพ่อค้าเหมาสวนฯต้องขาดทุนย่อยยับ เพราะหลังมะขามหวานซึ่งอยู่ระหว่างเริ่มสุกงอมถูกฝนตกใส่ไม่เพียงเกิดเชื้อราขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้ด้อยคุณภาพและราคาตกต่ำอีกด้วย ขณะเดียวกันในช่วงนี้มะขามหวานพันธุ์สีทองอยู่ระหว่างเริ่มสุกงอมและเกษตรกรเริ่มเก็บเกี่ยวเพื่อนำออกสู่ตลาดด้วย
นายศิริพงษ์ กุนเกียว อายุ 43 ปี พ่อค้าคนกลางค้ามะขามหวานรายใหญ่ อ.หล่มเก่า กล่าวว่า การที่มีฝนตกลงมาในรอบนี้ก็ยังต้องลุ้นกันอยู่ว่าจะได้รับผลกระทบหรือไม่ แต่หากมีฝนตกสลับมีแดดออกก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากต่อเนื่องและสภาพอากาศมืดคลึ้มไม่มีแดดเหมือนรอบแรกเกษตรกรก็คงเจ๊งกันระนาวเหมือนเดิม เดิมก็คาดหวังว่ามะขามพันธุ์สีทองซึ่งเป็นสายพันธุ์หนักสุกช้าและไม่รับผลกระทบจากฝนหลงฤดูในรอบนี้จะช่วยกอบกู้สถานการณ์ให้กับเจ้าของสวนได้ แต่ตอนนี้ยอมรับว่าชักไม่แน่ใจเหมือนกัน อย่างไรก็ตามต้องรอดูสถานการณ์หลังจากนี้ 2-3 วัน ซึ่งเกษตรกรนำผลผลิตมาส่งให้ก็จะประเมินได้ว่าผลผลิตในรอบนี้ได้รับผลกระทบจากฝนหลงฤดูในรอบนี้หรือไม่
“ฝนหลงฤดูในรอบแรกพ่อค้าเหมาสวนมะขามหวานถึงกับตัดใจยอมขาดทุน โดยปล่อยทิ้งคาต้นไม่ยอมไปเก็บผลผลิต เพราะประเมินแล้วหากต้องเสียจ้างค่าเก็บมะขามเพิ่มเข้าไปอีก ก็จะต้องขาดทุนเข้าเนื้อยิ่งขึ้นไปอีกจึงยอมปล่อยทิ้งคาต้นดีกว่า ส่วนในจังหวัดใกล้เคียงยิ่งย่ำแย่กว่าที่เพชรบูรณ์ เพราะเดิมมะขามหวานก็มีความชื้นสูงอยู่แล้ว จนทำให้เนื้อแฉะกระทั่งสีเนื้อออกค่อนข้างคล้ำเกิดเชื้อราง่าย แต่หากเจอต้องมาเจอความชื้นจากฝนหลงฤดูในรอบนี้อีกอาการจึงน่าเป็นห่วงค่อนข้างมาก ”นายศิริพงษ์กล่าวย้ำ
