เพชรบูรณ์-ผบ.ม.3 พัน 26 เยี่ยมครอบครัว 2พลทหาร ก่อนรับเข้าประจำการผลัดที่ 1/2562 ตามนโยบายแม่ทัพภาคที่ 3 ให้ดูแลครอบครัวทหารที่ยากจน
เวลา 10.00 น.วันที่ 28 เมษายน พ.ท.ทรงภพ ชาญเดช ผบ.ม.3 พัน 26 กองพล ม.1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง จ.เพชรบูรณ์ พร้อมคณะครูฝึกทหารใหม่ ได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนบ้านและครอบครัวนายสมพร จันทร์เตื่อย อายุ 21 ปี ที่บ้านเลขที่ 76 หมู่ที่ 9 บ้านวังซอง ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ และครอบครัวนายนายฤทธิชัย บุญสีทา อายุ 21 ปี ที่บ้านเลขที่ 104/1 หมู่ที่ 6 บ้านลำป่าสักมูล ต.ดงมูลเหล็ก อ.เมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งทั้งสองได้รับการตรวจเลือกเข้าเป็นพลทหารประจำการผลัดที่ 1/2562 และต้องเข้ารับการฝึกในวันที่ 1 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ในสังกัด ม.3 พัน 26 ซึ่งตามนโยบายของแม่ทัพภาคที่ 3 ต้องการให้ทางหน่วยทหารต้นสังกัด เยี่ยมเยือนพลทหารที่มีฐานะยากจนและมีความลำบาก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัว ทั้งนี้นายสมพรปัจจุบันอยู่กับลุงและป้าและเป็นแรงงานสำคัญของครอบครัว ในขณะที่นายฤทธิชัยอยู่กับแม่และตายายโดยมีลูกสาววัย 1 ปีเศษดูแล
โดยพ.อ.ทรงภพพร้อมทหารครูฝึกได้ร่วมกันชี้แจงทำความเข้าใจกับครอบครัวนายสมพรและครอบครัวนายฤทธิชัย พร้อมเครือญาติและผู้ใหญ่บ้าน ถึงสภาพความเป็นอยู่ของทหารใหม่ หลังเข้าประจำการเป็นพลทหารประจำการ ซึ่งนอกจากจะได้รับการฝึกด้านความอดทนและด้านวินัยตามมาตรฐานของกองทัพบกแล้ว ยังจะได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิต และได้รับการส่งเสริมให้พัฒนาการศึกษาอีกด้วย ขณะเดียวกันยังขอให้เหล่าบรรดาเครือญาติได้วางใจ เพราะปัจจุบันไม่มีการฝึกทหารอย่างโหดเหี้ยมอีกแล้ว
“การเป็นทหารทุกวันนี้ไม่ได้ยากลำบากเหมือนเมื่อก่อน การฝึกจะเน้นการมีวินัยและการฝึกแม้จะหนัก แต่จะหนักตามระเบียบและรูปแบบของการฝึก ส่วนความโหดทุกวันนี้ไม่มีแล้วเพราะทางผู้บังคับบัญชาเป็นห่วงมาก ไม่อยากให้มีการทำร้ายร่างกายทหาร ให้ฝึกตามรูปแบบและมาตรฐานการฝึกที่กำหนดมา ขณะเดียวกันผู้ที่ผ่านการตรวจคัดเลือกเข้ารับการฝึกและประจำการทุกวันนี้ ต่างก็มีความรู้และมีการศึกษากันดีแทบทุกคน ฉะนั้นจึงเข้าใจคำสั่งและพร้อมปฏิบัติตามกันเป็นอย่างดี โดยไม่จำเป็นต้องใช้กำลังบังคับกัน”พ.ท.ทรงภพกล่าว
นอกจากนี้พ.ท.ทรงภพ ยังชี้แจงเรื่องรายได้ซึ่งพลทหารเหล่านี้ตลอดระยะเวลา 2 ปีในช่วงประจำการ จะได้รับเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงเฉลี่ยราวเดือนละ 9,000 บาท ทำให้สามารถจุนเจือครอบครัวได้อีกทางด้วย กระทั่งทำให้ทางเครือญาติและผู้ใหญ่บ้านทั้งสองแห่งต่างแสดงพอใจ และมีความเชื่อมั่นว่าทั้งนายสมพรและนายฤทธิชัย นอกจากจะมีโอกาสได้รับใช้ชาติสมกับเป็นชายชาติทหารแล้ว ยังมีโอกาสได้รับฝึกฝนและพัฒนาคุณชีวิตเพื่อความก้าวหน้าในชีวิตในอนาคตต่อไปอีกด้วย
