เพชรบูรณ์-ปลาในสระหลังพุทธอุทยานเพชะบุระ ตายลอยน้ำเป็นจำนวนมาก ประมงจังหวัดฯยันสาเหตุจากอ๊อกซิเจนไม่เพียงพอไม่ใช้เกิดจากสาเหตุอื่น
วันที 10 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่บริเวณสระน้ำหลังองค์พระใหญ่ พุทธอุทยานเพชะบุระ อ.เมืองเพชรบูรณ์ ปรากฎว่าปลาเลี้ยงภายในสระตายลอยน้ำเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นปลาตะเพียนและปลายี่สก ทำให้มีการระดมคนงานและพนักงานเจ้าหน้าจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ มูลนิธิพุทธมหาธรรมราชา, กำลัง อส.อ.เมืองเพชรบูรณ์, พนักงานเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์, อบต.สะเดียง, ทหาร พล.ม.1, อาสมัครกู้ภัยร่มโพธิ์ พร้อมเรือท้องแบนระดมเก็บซากปลาดังกล่าวขึ้นจากสระตลอดทั้งวัน
นอกจากนี้ซากปลาที่ตายลอยเกลื่อนเหล่สนี้ยังมีกลิ่นเน่าเหม็นตลบอบอวลอีกด้วย โดยคณะเจ้าหน้าที่มีการขุดหลุมขนาดใหญ่บริเวณข้างสระ เพื่อกลบฝังปลาตายเหล่านี้ พร้อมนำปูนขาวทำการโรยเพื่อฆ่าเชื้อโรค ก่อนจะใช้รถแบ็กโฮทำการกลบฝังอีกด้วย อย่างไรก็ตามระหว่างคณะเจ้าหน้าเร่งระดมเก็บซากปลาภายในสระ นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รุดไปที่บริเวณสระน้ำดังกล่าว เพื่อติดตามสถานการณ์จากนั้นกำชับให้คณะเจ้าหน้าที่ยุติการลอยเรือเก็บซากตายในเวลา 22.00 น.วันเดียวกัน
โดยนายชานนท์ อายุยง เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทธมหาธรรมราชาและผู้ดูแลพุทธอุทยานฯ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากพนักงานรักษาความปลอดภัยตั้งแต่เช้ามืดว่า ปลาในสระตายลอยเป็นแพ จึงระดมคนงานไปเก็บขึ้นจากกลบฝัง หลังจากนั้นช่วงบ่ายปลาในสระตายเพื่มเริ่มเป็นจำนวนมาก จึงได้แจ้งไปยังประมงจังหวัดและมีการรายงานให้ทางผู้ว่าราชการจังหว้ดรับทราบ จนมีการระดมคนงานและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยเก็บปลาตายเหล่านี้ออกจากสระ
ว่าที่ร้อยโทชัยรัตน์ พุ่มช่วย ประมงจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ปลาตายเป็นจำนวนมากเกิดจากสภาพอากาศ มีการเปลี่ยนแปลง โดยก่อนหน้านี้ อากาศที่เพชรบูรณ์มีอุณหภูมิสูงมาก และมีฝนตกลงมากะทันหัน ทำให้อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับในสระแห่งนี้มีปลา หนาแน่นซึ่งเกิดจาก มีประชาชน นำปลามาปล่อย ทำให้เกิดการขาดออกซิเจน ฉะนั้นเมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไปจึงทำให้ปลาอ่อนแอ และตายอย่างรวดเร็ว เป็นจำนวนมาก และจากการประเมิน ปลาที่ตายวันนี้มีจำนวนราว 40% หรือราว 3-5 ตัน ส่วนการที่ต้องระดมเจ้าหน้าที่แนะนำปลาออกจากสระ เพราะป้องกันไม่ให้เกิดภาวะน้ำเน่าเสียตามมา นอกจากนี้ยังจะมีการสูบน้ำบางส่วนออกแล้วก็นำน้ำใหม่เข้ามาเติม และหากมีฝนตกลงมาอีกก็คงจะไม่รุนแรงเหมือนอย่างวันนี้เพราะ ความหนาแน่นของปลาในสระเริ่มลดลง
“ยืนยันว่าปลาที่ตายแล้วนี้ ไม่ใช่มาจากสาเหตุอื่นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะปลาที่ตายแล้วนี้ส่วนใหญ่จะเป็นปลาตะเพียนขาวและปลายี่สกซึ่งต้องอาศัยออกซิเจนเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่ใช่จากสาเหตุอื่นแน่นอนครับ เกิดจากการขาดออกซิเจนจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ฝนตกหนักเมื่อวานและวันนี้ฟ้าปิดทั้งวัน การสังเคราะห์แสงเกิดขึ้นน้อย การผลิตออกซิเจนจากธรรมชาติไม่เพียงพอสำหรับสัตว์น้ำ จึงทำให้สัตว์น้ำเหล่านี้ตายพร้อมๆ กัน ฉะนั้นขอให้ ประชาชนอย่าได้ตื่นตกใจว่าการตายของปลาในแห่งนี้เกิดจากสาเหตุอื่นยืนยันว่าเกิดจากทางธรรมชาติ”ว่าที่ร้อยโทชัยรัตน์กล่าวย้ำ
