เพชรบูรณ์-ปธ.สภากัญชาฯหนุนวิจัยทางการแพทย์ เคสสามีภรรยาติดเชื้อ HIV ใช้น้ำมันศึกษาควบยาต้านไวรัสได้ผลหรือไม่ จี้ทบทวนขึ้นทะเบียนคนป่วยครอบครองกัญชาเพิ่ม เชื่อยังมีคนป่วยทั่วประเทศตกหล่น ยกเคสผู้ป่วยคู่นี้เป็นตัวอย่าง
วันที่ 3 มิถุนายน ความคืบหน้ากรณีสามีภรรยาป่สายติดเชื้อ HIV ใช้น้ำมันกัญชารักษาควบคู่กับยาต้านไวรัส โดยเฉพาะผู้ป่วยซึ่งเป็นภรรยา มีอาการทรุดหนักเป็นคนไข้ติดเตียง แต่ภายหลังอาการทุเลาขึ้นเป็นลำดับจน ลุกนั่งและกลับมาช่วยเหลือตัวเองได้ โดยล่าสุด ดร.อัศดา วุฒธนานันท์ ประธานสภากัญชาจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า จากการตั้งสันนิษฐานซึ่งปกติในกัญชามีสาร THC ที่ไปช่วยกระตุ้นเซลในร่างกายช่วยให้ไม่เกิดอาการเบื่ออาหาร นอนไม่หลับแก้อาการซึมเศร้า และทราบจากข่าวว่ามีการใช้น้ำมันกัญชาควบคู่ไปกับยาต้านไวรัสด้วย ก็เป็นไปด้วยเมื่อร่างกายได้รับน้ำมันกัญชาแล้วอาจจะไปกระตุ้นให้ยาไวรัสได้ผลขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยได้พักผ่อนและกินอาหารได้ก็ทำให้มีภูมิต้านทานในร่างกายเพิ่มขึ้นด้วย แต่ทั้งนี้ตนก็คงชี้ชัดไม่ได้ได้เช่นกัน คงต้องรอฟังผลการตรวจสอบเลือดผู้ป่วย ที่ทีมทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ไปเก็บตัวอย่างและจะมีการพิสูจน์
ประธานสภากัญชา.จ.เพชรบูรณ์กล่าวว่า ในกรณีนี้น่าสนใจมากฉะนั้นในเคสนี้กระทรวงสธ.ควรใช้โอกาสนี้สนับสนุนทำการศึกษาวิจัย เพราะหากได้ผลก็จะเอื้อประโยชน์ต่อทั้งการแพทย์ทั้งแผนปัจจุบันและแผนไทย แต่การใช้น้ำมันกัญชาในทางการแพทย์นั้นหากใช้เชิงเดี่ยวโดดปัจจุบันยังไม่เป็นที่ยอมรับและยังเป็นเรื่องผิดกฎหมายอยู่ ขณะนี้ที่กฎหมายเปิดช่องคือการใช้กัญชาตามตำรับยาและคนที่ใช้ต้องเป็นเภสัช คนที่ปรุงต้องเป็นเวชกรรมหรือหมอและปราชญ์ชาวบ้านเท่านั้น
ดร.อัศดากล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นการเข้าถึงกัญชาหรือผู้ป่วยนั้น ทราบว่าผู้ป่วยสามีภรรยาคู่นี้เป็นผู้ตกหล่นไม่ได้ขึ้นทะเบียนอนุญาตให้ครอบครองกัญชา ตรงนี้คิดว่าทางรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ควรจะทบทวนให้ผู้ที่เจ็บป่วยและใช้กัญชาเพื่อการรักษาทางการแพทย์อย่างกรณีในรายสองสามีภรรยาป่วยติดเชื้อ HIV คู่นี้ได้มีโอกาสขึ้นทะเบียนอีกรอบ โดยเชื่อว่ายังมีผู้ป่วยตกหล่นในลักษณะทั่วประเทศที่ยังไม่รู้และมีต้องการใช้ศาสตร์กัญชาเป็นทางเลือกในการรักษาควบคู่ไปด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: