X

ถกเครียดรื้อคดีตึกยักษ์ 3 หลังกลางเขาค้อ อึ้ง!รอส.เจ้าของที่ดินแจ้งความไว้ที่สภ.เขาค้อร่วมลงทุนกับนายทุน

เพชรบูรณ์-ถกเครียดรื้อคดีตึกยักษ์ 3 หลังกลางเขาค้อ ทหารแฉหนังสืออัยการสั่งไม่ฟ้องไม่ถึงมือทั้งที่เป็นผู้เสียหาย อึ้ง!รอส.เจ้าของที่ดินแจ้งความไว้ที่สภ.เขาค้อร่วมลงทุนกับนายทุน เคยย้ำอดีตนภอ.มีระดับบิ๊กขอเคลียร์แต่ปฎิเสธไป แจงพบรุกป่าเพิ่มอีก 191 รายเป็นรอส.และทายาทขายที่ดินแล้วรุกป่าต่อ

วันที่ 1 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมหารือเพื่อหาแนวทางดำเนินคดีการก่อสร้างตึกขนาดใหญ่ 3 หลังของนายทุน บนพื้นที่ราษฎรอาสาสมัคร(รอส.)ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ที่บ้านส่งคุ้ม อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ของคณะเจ้าหน้าที่ทหาร, ป่าไม้ ตำรวจ, ฝ่ายปกครอง, ผู้บริหารอบต.และกำนันในเขตพื้นที่ 4 ตำบลของอ.เขาค้อ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเขาค้อ โดยมีนายปกรณ์ ตั้งใจตรง นายอำเภอเขาค้อเป็นประธานและมีพ.ท.เกียติอุดม นาดี ผบ.ม.พัน 28 เข้าร่วม ปรากฎว่าที่ประชุมหยิบยกข้อกฎหมาย อาทิ กฎหมายป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507, กฎหมายผังเมืองรวมเพชรบูรณ์ตามกฎกระทรวง และเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ที่ดิน รอส. 9 ข้อ  ขึ้นมาพิจารณา เพื่อเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานใหม่ใช้ในการดำเนินคดีกับนายทุนรายนี้อีกรอบ หลังจากกฎหมายป.อาญา มาตรา 147 กำหนดให้การดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายเดิมต้องมีหลักฐานใหม่เพิ่มเติม นอกจากนี้ในที่ประชุมยังหารือถึงมาตรการที่จะยับยั้งไม่ให้มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติมอีกด้วย

ทั้งนี้ในการประชุมดังกล่าว พ.ท.เกียรติอุดม ได้หยิบยกปัญหากรณีอาคารตึกยักษ์ 3 หลังซึ่งภายหลังคำสั่งอัยการหล่มสักสั่งไม่ฟ้องเพราะหลักฐานไม่พอขึ้นมาชี้แจง โดยยืนว่าหนังสือคำสั่งอัยการสั่งไม่ฟ้องนั้นทั้งที่ทางหน่วยเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบพื้นที่บนเขาค้อ แต่ไม่เคยได้รับเอกสารดังกล่าวโดยเฉพาะคดีนี้ฝ่ายทหารเป็นผู้กล่าวโทษและเป็นผู้เสียหาย และหลังรับทราบจึงส่งทหารไปตามเก็บข้อมูลจากรอส.เจ้าของที่ดินรายนี้ ที่บ้านวังน้ำคู้ อ.เมือง จ.พิษณุโลกพบว่ากลุ่มนายทุนกลุ่มนี้ไปถึงก่อนทางทหาร และยังต้องถึงกับต้องอึ้งเมื่อทราบว่าเมื่อปี 2558 รอส.เจ้าของที่ดินรายนี้ได้แจ้งบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่สภ.เขาค้อว่า ได้ร่วมลงทุนกับนายทุนรายนี้และยังทำเอ็มโอยูไว้ด้วย จึงสงสัยว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องแต่ทำไมทางตำรวจจึงไม่มีการคัดค้าน

“ก่อนหน้านี้เคยกล่าวย้ำกับอดีตนายอำเภอเขาค้อไว้แล้วให้ช่วยทำให้ดีๆ เพราะเคสนี้เป็นเคสใหญ่มีระดับบิ๊กทั้งนั้นโทรมาขอให้ช่วยเหลือซึ่งได้ตอบปฏิเสธไป สุดท้ายก็ยังมีคำสั่งไม่ฟ้องอีกซึ่งมาในรูปแบบไหนก็ไม่รู้ ฉะนั้นจึงไม่อยากให้มีใครไปแปลงสารอีก”ผบ.ม.พัน 28 กล่าว

พ.ท.เกียรติอุดมยังระบุด้วยว่า ชุดปฎิบัติการลงสำรวจล่าสุดพบรีสอร์ทบ้านพักที่บุกรุกป่าเพิ่มเติมอีก 191 ราย ที่น่าสนใจส่วนใหญ่มีทั้งที่เป็นรอส.หรือเป็นลูกหลานทายาทรอส.แต่มาบุกรุกป่าเพื่ออยู่อาศัย เพราะรอส.เหล่านี้ได้ขายที่ดินที่ครอบครองไปแล้ว และเมื่อเจ้าหน้าที่ไปสำรวจก็จะพูดว่าไม่เห็นใจกันและอ้างเรื่องความยากจนไม่มีที่ดินทำกิน แต่เมื่อดูข้อมูลพบว่าเป็นรอส.มีที่ดินแต่ได้ขายไปแล้ว เมื่อถามว่าเห็นใจไหมก็น่าเห็นใจแต่หากมองอีกมุมจะเห็นใจได้อย่างไรก็เมื่อให้ไป 20 ไร่แล้ว แต่เอาไปขายแล้วก็มาบุกรุกป่ากันแล้วมาอ้างไม่มีที่ดินทำกินและจะขอใช้ที่ดินโดยบอกให้คนอยู่กับป่าอีก

อย่าไงก็ตามหลังเสร็จสิ้นการประชุมนายปกรณ์ ตั้งใจตรงพร้อมพ.ท.เกียรติอุดม นาดี และนายชิต อินทรนก ป่าไม้จังหวัด, พ.ต.อ.หทัยวัฒก์ จารุชัยนิวิฒน์ ผกก.สภ.สภ.เขาค้อ, นายสมพงษ์ ทองหนูนุ้ย ปลัดอาวุโสอำเภอเขาค้อและผู้เกี่ยวข้องได้ปิดห้องประชุมลับหารือถึงแนวทางที่จะดำเนินคดีนายทุนตึกอาคารยักษ์ 3 หลังอีกครั้ง จากนั้นมอบให้ร.ต.เอกชัย ดอนนาวิน หน.ชป.ศอป.โครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก และนายสมศักดิ์ ชวนชม หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.2 (เขาค้อ) ได้นำหนังสือรายงานผลการตรวจสิ่งปลูกสร้างตึก 3 หลังเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวน สภ.เขาค้อ เพื่อบันทึกเป็นหลักฐานในการตรวจสอบว่า หากมีหลักฐานเพียงพอและเป็นความผิดตามกฎหมาย จะได้ดำเนินการเข้าสู่กระบวนการร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

 

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน