เพชรบูรณ์-ทายาท รอส.เขาค้อ บุกขอความช่วยเหลือ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลังปาดน้ำตาขอเอกสารจัดที่ดิน คทช. เพื่อยื่นศาลขอชะลอพิจารณาคดี
วันที่ 23 สิหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทายาท รอส.เขาค้อพร้อมกลุ่มผู้ประกอบการรีสอร์ทราว 10 คน ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีบุกรุกป่าเขาค้อ และอยู่ในการพิจารณาในชั้นศาล ได้มาดักรอพบพร้อมยื่นหนังสือเพื่อขอความช่วยเหลือ ต่อนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (รมช.คลัง) ซึ่งลงพื้นที่ตรวจราชการและร่วมประชุมคณะผู้บริหารภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งองค์กรปดครองส่วนท้องุ่น รับทราบปัญหาต่างๆ ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์
โดยนางกนกลัษณ์ ศรีคำแขก ทายาท รอส. 1 ใน 135 ผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีรุกป่า กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ต้องการให้ชะลอการพิจารณาคดีแค่นั้นไม่ต้องยกเลิก เพื่อรอการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาลเท่านั้น ส่วนโยบายรัฐบาลจะออกมาแบบไหนพวกเรายอมรับ เพียงขอให้บอกมาว่าจะทำอะไร เราไม่ต้องการโฉนดหรือเอกสารสิทธิ์อะไรทั้งนั้นเพียงแค่ขออยู่อาศัย เป็นทายาท รอส.ที่พ่อยกที่ดินให้ไม่รู้ว่าเป็นการบุกรุกป่า แต่วันนี้ถูกแจ้งจับว่าบุกรุกและยังจะมาถูกเข้าคุก และทำไมมาจับแค่เรา 135 รีสอร์ตซึ่งมีคนทั้งจนและคนรวยอยู่ในนั้น แต่คนที่ขึ้นศาลและถูกตัดสินคือคนที่ไม่มีเงินเท่านั้น ส่วนคนรวยเขามีเส้นสายลอยตัวกันไปหมดแล้ว
นางกนกลักษณ์กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้สอบถามทางป่าไม้ว่าทำบ้านพักทำได้ไหม ก็บอกว่าทำได้และเมื่อสร้างเสร็จไปยื่นขอประกอบกิจการทำเป็นโฮมเสตย์ เสียภาษี อบต.แต่วันนี้ถูกจับดำเนินคดี คนที่ไม่เดือดร้อนไม่ออกมาเพราะมีตังค์แต่ดิฉันไม่มี ทางฝ่ายกฎหมายบอกว่าหากคุณไม่มีเอกสารเกี่ยวกับการจัดที่ดินบนเขาค้อทั้ง 4 ตำบลว่าจะเริ่มทำเมื่อไหร่สิ้นสุดเมื่อไหร่ หากไม่มีผู้ถูกดำเนินคดีต้องถูกสั่งลงโทษทั้งหมด และหากเป็นไปแบบนี้ก็ไม่มีใครชะลอได้ นอกจากนโยบายรัฐบาล พวกเราจึงต้องการได้เอกสารการจัดที่ดิน คทช. เพื่อนำไปยื่นขอความเมตตาต่อศาลให้ชะลอการพิจารณาออกไปก่อน เพราะอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตามนายสันติรับปากยินดีหาแนวทางให้ความช่วยเหลือ และขอให้นายสืบศักดิ์รับเรื่องนี้ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกให้แก่ทายาท รอส.และกลุ่มผู้ประกอบเหล่านี้
ทั้งนี้มีรายงานว่า ขณะนี้ศาลจังหวัดหล่มสักเริ่มทยอยมีคำตัดสินพิพากษา 135 ผู้ประกอบการรีสอร์ทที่ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกป่า โดยคำพิพากษานอกจากจะมีการสั่งจำคุกแล้วยังมีโทษปรับและให้จำเลยรวมทั้งบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และออกจากพื้นที่เกิดเหตุด้วย ส่วนในรายนางกนกลักษณ์จะมีการตัดสินคดีในวันที่ 30 สิงหาคมนี้
