เพชรบูรณ์-ยุติธรรมจังหวัดฯพร้อมยื่นมือช่วย 2 ตายายเหยื่อถูกโกงที่ดิน หลังถูกนายทุนเงินกู้แจ้งความเอาผิด แต่ต้องรอความชัดเจนจากตำรวจก่อน เพราะอยู่ในขั้นตอนรวบรวมหลักฐานยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา
วันที่ 1 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีนายสุเมธ สงคราม อายุ 80 ปีผู้พิการทางสายตาและข้าราชการครูบำนาญ พร้อมนางโสภี สงคราม อายุ 52 ปี สองตายายเหยื่อถูกนายทุนเงินปลอมใบอำนาจโกงที่ดินที่นำไปจำนอง ได้รุดขอความช่วยเหลือทางยุติธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากถูกนายทุนเงินกู้คู่กรณีแจ้งความต่อตำรวจ สภ.ดงขุย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ให้เอาผิดโดยอ้างว่าร่วมกับพวกรวม 4 รายเรียกร้องสินบน โดยชั้นนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานโดยยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ล่าสุดนายนายชิด ปาคำมา ยุติธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงการช่วยเหลือ 2 ตายายและพวกว่า เท่าที่ทราบจากรายงานจากเจ้าหน้าที่ทางคู่กรณีที่ไปแจ้งความ พนักงานสอบสวนยังอยู่ในชั้นรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าจะมีการดำเนินการตามที่คู่กรณีแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่
นายชิดกล่าวว่า หากพยานหลักฐานไปไม่ถึงทางพนักงานสอบสวนก็อาจจะไม่ดำเนินการอะไรก็ได้ คงต้องรอความชัดเจนจากพนักงานสอบสวนเป็นหลัก แต่หากเกิดมีกรณีที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือทางสำนักงานฯก็พร้อมจะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นด้านที่เกี่ยวกับทนายความ และถ้าหากจะต้องมีการควบคุมตัวก็จะเข้าไปช่วยเรื่องการขอปล่อยตัวชั่วคราว ในส่วนเรื่องของคดีนั้นก็ต้องว่ากันเรื่องพยานหลักฐานเป็นหลักเพราะเป็นกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตามเรื่องอื่นๆก็จะต้องรายงานให้ทางกระทรวงฯได้รับทราบและก็รอทางอีกฝ่ายจะว่ายังไงต่อไป ส่วนคดีเดิมตรงนั้นก็ต้องว่าตามกระบวนของศาลยุติธรรมเพราะคดีไปถึงศาลอยู่แล้วเนื่องจากทางฝ่ายจำเลยมีการยื่นอุทธรณ์
ข่าวน่าสนใจ:
- เพชรบูรณ์-ผปส.มูลนิธิรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ฯ จี้ผู้จัดคอนเสิร์ต-จนท.เข้มบุหรี่ไฟฟ้า
- "Gmm Show"แจ้งเตือนระวังมิจฉาชีพ หลอกขายบัตรทิพย์ คอนเสิร์ต Rock Mountain เขาค้อ
- เขาค้อผวา "ทริปน้ำไม่อาบ" นอภ.สั่งตั้งจุดตรวจ เกรงหลังเสร็จกิจกรรมภูทับเบิก แก๊งแว้นเตลิดเขาค้อ
- เพชรบูรณ์ - นักท่องเที่ยวสุดเซ็ง! วางแผนไปเที่ยวเขาค้อภูทับเบิก หลังรู้ข่าวต้องเจอ"ทริปน้ำไม่อาบ" ยอมยกเลิกหรือปรับไปเที่ยวที่อื่นแทน
สำหรับคดีที่นายสุเมธฟ้องร้องนายทุนเงินกู้รายนี้นั้น สืบเนื่องจากนายสุเมธได้นำโฉนดที่ดินเนื้อที่ 19 ไร่ 46 ตารางวาไปจดจำนองไว้ แต่ภายหลังนายทุนปลอมแปลงลายมือชื่อนายสุเมธในใบมอบอำนาจ พร้อมไปไถ่ถอนที่ดินและขายที่ดินให้กับตนเอง กระทั่งนายสุเมธและภรรยาได้เข้าร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรมจนได้รับการยื่นมือช่วยเหลือ ต่อมานายสุเมธเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษนายทุนรายนี้ จนมีการตรวจพิสูจน์ลายชื่อนายสุเมธกระทั่งผลยืนยันไม่ใช่ลายมือชื่อสุเมธ ทางพนักงานอัยการจึงได้สั่งฟ้องฯ จนราวเดือนสิงหาคมปี 2560 ผู้พิพากษามีคำตัดสินพิพากษาสั่งจำคุกนายทุน 2 ปีและให้คืนโฉนดที่ดิน หากคืนไม่ได้ให้ชดใช้เงินแก่ผู้เสียหายจำนวน 1.8 ล้านบาท ล่าสุดคดีนี้อยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลอุทธรณ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: