ในเวลาเช้าของ วันที่ 26 ธันวาคม 2547 เกิดความสูญเสียอย่างรุนแรงที่หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต แหล่งท่องเที่ยวอันสวยงามเกาะสวรรค์บนดินของผู้ได้มาเยือนและใฝ่ฝันจะมาเยือน เกิดคลื่นยักษ์ขนาดใหญ่ที่คนไทยไม่เคยรู้จักมาก่อน ถาโถมเข้ามาทำลายทุกสิ่งในระยะหน้าหาดป่าตอง
ไม่น่าเชื่อว่าพลังจากน้ำทะเลจะทำลายทุกอย่างพังพินาศในพริบตา และมีผู้บาดเจ็บ คลื่นยักษ์คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย ความสูญเสียที่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่นาที พัดพาเอาหลายสิ่งลงทะเล และหายไปในเวลาไม่นาน แต่ความทรงจำอันปวดร้าว มันยังคงฝังลึกลงไปในจิตใจของผู้เสียหายและสูญเสียในครั้งนั้นอย่างไม่สามารถลบมันออกไปได้
สิ่งที่ตามมาหลังจากเสียงคลื่นก้อนโตสงบลง นอกจากมีผู้บาดเจ็บและล้มตายลงไป คือ การสิ้นเนื้อประดาตัวของใครหลายๆคน การเกิดหนี้ก้อนโตของหลายคน ระบบเศรษฐกิจที่เริ่มแปรผัน ความหวั่นเกรงและหวาดกลัวภัยพิบัติเกิดขึ้นให้หมู่นักท่องเที่ยวที่คิดจะมาเยือนเกาะแห่งนี้
หน่วยงานรัฐ เอกชน และภาคประชาชน ต่างร่วมมือกันเพื่อช่วยกันวางแผนงาน ปรับปรุงและค่อยๆแก้ไขทีละสิ่งทีละอย่าง เริ่มจากตัวเองสู่ภาพรวม จนหาดป่าตองกลับมาเติบโตอีกครั้ง ทุกคนต่างต้องดิ้นรน ทำงานใช้หนี้ก้อนโตที่นำมาลงทุนใหม่ ซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย ทำทุกอย่างให้พัฒนาขึ้น เพิ่มขีดการป้องกันอันตรายจากภัยทางธรรมชาติมากขึ้น
เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มป่าตองผ่านพ้นไป 13 ปีเต็ม หาดป่าตองกลับมาสวยงามดังเดิม เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวและเติบโตอย่างรวดเร็ว ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวกับมาเช่นเดิม ด้วยความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ หาดป่าตองกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง แม้ว่าเมื่อพูดถึงเหตุการณ์ 13 ปีที่ผ่านมายังคงมีความเศร้าอยู่ก็ตาม และบนความเศร้าก็ทำให้เรารู้ว่าคนไทยและชาวโลกมีน้ำใจต่อเราชาวป่าตองมากแค่ไหน
ทุกวันต้องคอยระวังทะลที่มีความแปรปรวน ธรรมชาติไม่เคยบอกกล่าวอะไรเรา มีแต่เราที่ต้องคอยระมัดระวังและเตือนภัยเพื่อดูแลความปลอดภัยกันต่อไป
ขอแสดงความเสียใจและขอไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น จากใจผู้เขียน
บทความโดย :หงส์เดินดิน (26 ธันวาคม 2560)
