สาวใหญ่จิตอาสา วอนหมอช่วยรักษาโรคร้ายทำสังคมรังเกียจ

• Facebook
• Twitter
• Line

อุบลราชธานี – 2 พ่อลูก จิตอาสา เมืองชายขอบ วอนหมอช่วยรักษาโรคร้ายทำเท้าบวมแตก ตุ่มขึ้นทั้งตัว แถมยังปวดแสบปวดร้อน ทำชาวบ้านไม่เข้าใจรังเกียจบอกเป็นโรคติดต่อ ไม่สามารถทำงานได้ต้องอาศัยอาหารจากเพื่อนบ้านและวัดในชุมชนประทังชีวิต

แหล่งข่าวรายหนึ่งให้ข้อมูลต่อผู้สื่อข่าวว่า ที่บ้านเลขที่ 23 ม.5 ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี มี 2 พ่อ ลูก ได้รับความลำบาก  มีฐานะยากจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องอาศัยข้าวจากวัดและเพื่อนบ้านในชุมชนประทังชีวิตในแต่ละวัน  ซ้ำร้ายลูกสาว วัย 39 ปี ต้องป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ทำเท้าบวมแตก ผิวหนังแห้งเหยี่ยวย่นไม่สามารถทำงานได้ อยากวอนหมอหรือผู้ที่มีสามารถรักษาได้ช่วยรักษาโรคดังกล่าวให้หายเพื่อจะได้ดูแลพ่อซึ่งมีอายุ 80 ปี ก่อนสิ้นใจ

หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง   บ้านเลขที่ดังกล่าวเป็นบ้านไม้เก่ายกสูง บริเวณใต้ถุนบ้านพบ นางสาวจันทร์เพ็ญ  กมสินธ์  อายุ 39 ปี และ นายสี กมสินธ์ อายุ อายุ 80 ปี นั่งคุยอยู่กับเพื่อนบ้านที่มาเยี่ยม

นางสาวจันทร์เพ็ญ เปิดเผยว่าเดิมทีตนเองเป็นคนปกติ ร่างกายแข็งแรงเหมือนคนทั่วไป เป็นที่รักใคร่ของคนในชุมชนเนื่องจากมักจะเป็นจิตอาสาไปช่วยทำอาหารให้ชาวบ้าน วัด งานต่างในชุมชนเป็นประจำ ต่อมาปี 59 ตนเองเริ่มมีอาการป่วยเท้าเริ่มบวม มีตุ่ม ขึ้นตามตัว มือ แขน และใบหน้า ที่สำคัญจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนเมื่อเจอแดดและควัน ทำให้ชาวบ้านบางคนที่ไม่เข้าใจรังเกียจไม่ให้ร่วมกิจกรรมเหมือนก่อน ล่าสุดเท้าที่บวมก็เริ่มปริและแตกออกเป็นแผลทำให้เดินลำบาก

นางสาวจันทร์ ยังบอกอีกว่าช่วงที่เริ่มเป็นแรกๆได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลน้ำยืน บอกบอกเพียงแค่ว่าเป็นภูมิแพ้ให้ยาแก้แพ้มาทานแต่ก็ไม่ดีขึ้น ต่อมาเป็นไปหาหมอที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี

หมอก็วินิจฉัยว่าเป็นภูมิแพ้ให้ยามาทานเหมือนเดิมไม่ได้มีการรักษาใดๆ  บอกเพียงว่าถ้าไม่ดีขึ้นให้กลับมาใหม่แต่ระยะทางจากบ้านไปโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ค่อนข้างไกลไปหลับถึง  200  ก.ม.  ประกอบกับไม่มีเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาจึงไม่ได้รักษาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ตนไม่สามารถออกไปโดนแดด หรื อากาศที่ร้อนได้จะมีอาการปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัวต้องอาศัยยาสมุนไพรมาทานบรรเทาอาการ

ความเป็นอยู่ปัจจุบันตนเองและพ่อมีรายได้จากเงินผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท เท่านั้น อาหารแต่ละวันต้องอาศัยเพื่อนบ้านในชุมชนและวัดในการประทังชีวิต โครงการบัตรสวัสดิการของรัฐตนเองและพ่อก็ไม่ได้รับการอนุมัติทาง อบต.โดมประดิษฐ์ แจ้งว่ารายชื่อตกหล่นทำให้ไม่สามารถได้รับสิทธิดังกล่าวได้ ทำให้ตนเองรูสึกท้อแท้บางครั้งก็นั่งร้องไห้ บางครั้งก็อยากฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่ได้กำลังใจจากพ่อให้สู้ชีวิต คิดว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเวรกรรมที่ทำมา

ด้านการช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐในพื้นที่ มีนายสมชัย บูรณะ นายอำเภอน้ำยืน นางวาสนา คำโส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโดมประดิษฐ์ นำถุงยังชีพมามอบให้พร้อมกับเงินจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งแจ้งว่าจะให้หมอมาดูแต่ถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีส่วนงานอื่นเข้ามา เมื่อสอบถามถึงสิ่งที่อยากได้ นางสาวจันทร์เพ็ญได้บอกเพียงว่าอยากให้หมอช่วยรักษาโรคร้ายนี้เพื่อจะได้กลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทำงานดูแลพ่อที่ชรา อยู่กับชุมชนอย่างเช่นเดิมที่เคยทำ

สำหรับประชาชนท่านใดอยากจะช่วยเหลือนางสาวจันทร์เพ็ญ นายสี สามารถบริจาคได้ที่บัญชีธนาคารออมสิน เลขที่ 020243220108  ชื่อบัญชีร่วมคณะกรรมการเบิกจ่าย 2 ใน 3  นางสาวจันทร์เพ็ญ กมสินธ์ หรือ นายสงวน  วิริยะพันธ์ หรือ นางวิไลวรรณ  เพียรตน

ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์

• Facebook
• Twitter
• Line