อุกอาจ! ระดมยิงรถผู้รับเหมาพรุน 3 คัน ครั้งที่สองในรอบปี คาดเหตุฟ้องคดี

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 มิ.ย. พ.ต.ท.วันชัย ไชยรักษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.วารินชำราบ พนักงานสอบสวน สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากนายอมรชัย ศรีตะคุ อายุ 44 ปี เจ้าของ หจก.อมตะแกรนิต แอนนด์มาร์เบิล ตั้งอยู่เลขที่ 436 บ้านจั่น หมู่ 2 ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างบ้านและร้านค้าทั่วไป มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยาวออโตเมติกยิงใส่บ้านและกระสุนถูกตัวถังรถที่จอดไว้หน้าบ้านได้รับความเสียหายจำนวน 3 คัน จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป รอง ผกก.สืบสวน สภ.วารินชำราบ และชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบไปตรวจที่เกิดเหตุ

พบที่ตั้งของห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นบ้านแบบชั้นเดียวต่อหน้าบ้านเป็นสองชั้น บริเวณรั้วบ้านพบรอยกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 3 รอย ส่วนที่รถยนต์กระบะแบบแค๊ปและสองตอนทั้งรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าวีโก้สีดำ หมายเลขทะเบียน กล 530 อุบลราชธานี  นิสสัน นาวาร่า สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน ฒฐ 9882 กรุงเทพ และยี่ห้อเชฟโลเลต สีขาว หมายเลขทะเบียน 4 กฒ 1170 กรุงเทพฯ จำนวน 3 คัน ที่นายอมรชัย จอดไว้ริมถนนหน้าบ้าน มีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาดเดียวกันอีก 22 นัด

โดยกระสุนส่วนใหญ่ยิงถูกบริเวณตัวถังรถฝั่งขวามือ มีเพียงบางนัดไปถูกกระจกด้านข้างและด้านหลังรถกระบะยี่ห้อเซฟโรเลตแตกเป็นรู เมื่อไปตรวจบริเวณพื้นหญ้าฝั่งที่เป็นทุ่งนาตรงข้ามกับตัวบ้าน พบปลอกกระสุนปืนขนาด .22 ตกอยู่ถึง 10 ปลอก

จึงคาดว่าคนร้ายใช้ปืนยาวออโตเมติกแบบ M4 ขนาด .22 ซึ่งมีรูปลักษณ์คล้ายปืนเอ็ม 16 สามารถยิงแบบกึ่งอัตโนมัติซุ่มยิงมาจากทุ่งนาฝั่งตรงข้ามกับถนนและบ้านของนายอมรชัย ก่อนหลบหนีไป

นายอมรชัยให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00-23.00 น. คืนวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายปรัชญา บริบูรณ์ อายุ 37 ปี คนงานที่อยู่เฝ้าบ้านกับพี่เลี้ยงลูกชายวัย 4 ขวบของตน ได้ยินเสียงดังคล้ายประทัดดังรัวติดต่อกันหลายนัด แต่ไม่ได้เอะใจสงสัยอะไร นึกว่ามีคนเอาประทัดมาจุดเล่นอยู่กลางทุ่งนา ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านพัก

กระทั่งดึกตนเสร็จจากงานกลับเข้าบ้าน ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ จนรุ่งเช้าคนงานมาตามให้ไปดูรถยนต์ของตนที่ใช้ขนวัสดุก่อสร้างและใช้ตรวจงาน มีรอยถูกยิงและยังพบรอยกระสุนพลาดมาถูกบริเวณกำแพงรั้วบ้าน เมื่อไปเปิดดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ ไม่พบการเคลื่อนไหวของคนมาใกล้รถหรือบ้าน จึงเชื่อตามเจ้าหน้าที่สันนิษฐานคนร้ายซุ่มยิงมาจากระยะไกล

สำหรับสาเหตุการบุกยิงอย่างอุกอาจครั้งนี้ เชื่อว่ามาจากความขัดแย้งที่ตนมีเรื่องฟ้องร้องกับลูกค้าที่จ้างตนสร้างบ้านพักให้จำนวน 2 หลัง แล้วไม่จ่ายเงิน รวมทั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ตนก็ได้เป็นแกนนำยื่นฟ้องร้องคนกลุ่มเดียวกันเรื่องการเล่นแชร์ลูกโซ่ผ่านระบบไลน์ แล้วไม่ยอมจ่ายเงินให้ตนเป็นมูลค่านับสิบล้านบาท เมื่อคิดรวมกับลูกค้าคนอื่นๆอีกเป็นมูลค่าสูงกว่า 25 ล้านบาท

ต่อมาตนฟ้องร้องจนชนะคดีว่า จ้างให้ตนก่อสร้างบ้านแล้วไม่จ่ายเงิน โดยศาลสั่งให้ยึดทรัพย์ลูกค้ารายนี้นำไปขายทอดตลาด ทำให้ลูกค้าคนดังกล่าวด่าทอตนผ่านโปรแกรมเฟสบุคหลายครั้ง ตนก็ได้ยื่นฟ้องเพิ่มเติมในข้อหาทำผิด พรบ.คอมพิวเตอร์กับลูกค้าคนดังกล่าวอีก และเมื่อวานตนก็เพิ่งไปขึ้นศาล กรณีฟ้องให้ลูกค้าคนเดียวกันจ่ายเงินค่าสร้างบ้านหลังที่ 2 ให้กับตน ตกดึกบ้านตนก็มาถูกยิงถล่ม จึงมั่นใจน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกปองร้าย

 และเหตุการณ์ยิงบ้านตนไม่ใช่เพิ่งเกิดเป็นครั้งแรก เพราะเมื่อวันที่ 26 ม.ค.2561 ก็มีคนร้ายใช้ปืนขนาดเดียวกันยิงเข้ามาในบ้านตนจำนวน 2 นัด ครั้งนั้นกระสุนถูกกระจกบ้านและรถยนต์โตโยต้าคัมรีที่ตนใช้ประจำ ซึ่งได้แจ้งความไว้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้

ทำให้คนร้ายย่ามใจหวนกลับมาก่อเหตุซ้ำ โดยครั้งนี้ ยิงถล่มจนหมดแม็กกาซีนรวม 25 นัด จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับคนร้ายมาดำเนินคดี ก่อนที่ตนจะได้รับอันตรายจากการปองร้ายครั้งนี้

ด้าน พ.ต.อ.อดิเทพ พิชาดุลย์ ผกก.สภ.วารินชำราบ กล่าวถึงการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุอุกอาจครั้งนี้ จากแนวทางการสอบสวนเบื้องต้น ผู้เสียหายมีประเด็นความขัดแย้งกับกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งอย่างชัดเจน การสืบสวนไม่ซับซ้อน ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังรวบรวมประจักษ์พยานหลักฐานใช้เข้าตรวจค้น

ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์