อุบลราชธานี – คุยกับคุณนุช คนึงนุช วงศ์เย็น ผู้จัดการโครงการกินสบายใจ ผู้ร่วมก่อตั้งตลาดนัดสีเขียวกินสบายใจ กับการรักษาช่องทางกระจายผลผลิตอินทรีย์ อาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภค ในช่วงวิกฤติโควิด-19
สาวน้อยร่างบางคนนี้ทำงานมาตั้งแต่เรียนจบ ปวส. กระทั่งปัจจุบันเธอเติบโตทั้งอายุที่ผ่านวัยเลข 3 มาหน่อยๆ และที่สำคัญวิธีการ วิถี และแนวคิด ซึ่งนับวันด้วยประสบการณ์ทำงานที่ยาวนานกว่า 10 ปี แม้จะอายุยังน้อย แต่เธอก็ก้าวขึ้นมาเป็นบุคคลทัพหน้าในการขับเคลื่อนตลาดอินทรีย์ในเมืองอุบลราชธานี และปัจจุบันจากการทำงานที่ทุ่มเทร่วมกับเครือข่ายเกษตรอินทรีย์อุบล ทำให้ตอนนี้เมืองดอกบัวมีตลาดนัดกินสบายใจหลายแห่ง ทั้งในเมืองและนอกเมือง แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ไวรัสโควิด 19 แพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ที่มีผลกระทบต่อระบบเกษตรอินทรีย์ที่คิดว่าคือแหล่งผลิตอาหารที่ปลอดภัยและผู้ผลิตก็ไว้ใจได้ แต่ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องเผชิญกับวิกฤติคราวนี้
“ในช่วงที่เกิดการระบาดของโรคไวรัสโควิด ทำให้ตลาดหลักปิดตัวลง ซึ่งเดิมมีอยู่ที่ห้างสุนีย์ชั้น G โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี และที่นี่ตลาดนัดกินสบายใจที่ห้วยวังนอง มันเป็นช่องทางที่มีความสำคัญอย่างไร ก็อย่างที่บอกว่าตลาดหลักของเราถูกปิดลง ทำให้เกษตรกรขาดช่องทางในการจำหน่ายสินค้า ซึ่งที่ผ่านมาเกษตรกรก็มีการวางแผนการผลิต 3 เดือนล่วงหน้า แต่พอไม่มีช่องทางในการจำหน่ายให้ผู้บริโภคก็ส่งผลให้เขาไม่มีรายได้ และผู้บริโภคก็เข้าไม่ถึงอาหารที่ปลอดภัย” คุณนุชเล่าที่มาให้ฟังเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด ซึ่งวันนี้เธอมายืนบอกเล่าอยู่ที่ตลาดนัดสีเขียวกินสบายใจ ห้วยวังนอง ต.ปทุม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
ตลาดนัดสีเขียวกินสบายใจ ห้วยวังนอง เป็นตลาดนัดสีเขียวในชุมชนเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งห้วยวังนองทางฝั่งทิศตะวันออก ติดกับวัดมงคลโกวิทาราม เพิ่งเริ่มเปิดตัวมาประมาณปีกว่าๆ และในช่วงที่ผ่านมาที่นี่ก็ถือว่าเป็นตลาดนัดสีเขียวที่คึกคักพอควร ด้วยสภาพทำเลซึ่งที่โล่งกว้าง มองไปข้างหน้าจะเห็นหนองน้ำสาธารณะห้วยวังนอง ซึ่งเป็นเสมือนทะเลสาบย่อมๆ ทำให้ทั้งแม่ค้าพ่อขายและผู้มาช๊อปปิ้งรู้สึกโล่งโปร่งกับสายลมอ่อนๆปะทะแสงแดดเบาๆ ในยามเย็นของตลาดที่เปิดทุกเย็นวันศุกร์และวันอังคาร
“ตลาดนัดห้วยวังนองเป็นตลาดสีเขียวในชุมชน ซึ่งทางโครงการกินสบายใจได้เปิดขึ้นเมื่อ 1 ปี ที่ผ่านมา โดยแนวคิดเรามองว่า ตลาดอินทรีย์หรืออาหารปลอดภัยที่มีความยั่งยืนต้องมีหลายระดับ เพราะกลุ่มผู้บริโภคเป็นทั้งคนมีรายได้สูงที่ไปเดินห้าง คนที่อยู่ในองค์กร และคนที่อยู่ในชุมชนเดียวกับเกษตรกรผู้ผลิต และถ้ามันมีอยู่หลายจุด มันก็จะเป็นช่องทางที่จะสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้ชุมชน เพราะจะทำให้คนซึ่งเป็นผู้บริโภคที่มีอยู่หลายๆกลุ่มเข้าถึงได้ง่าย”
คนึงนุชเล่าให้ฟังต่อ ถึงขนาดของตลาดและรูปแบบที่มีหลายระดับ อย่างน้อยก็ 3 ระดับ คือตลาดใหญ่ในห้างหรู ตลาดองค์กรอย่างเช่นในโรงพยาบาล และตลาดในชุมชน แต่ปัจจุบันทุกแห่งถูกปิดลง เหลือเฉพาะตลาดนัดสีเขียวกินสบายใจห้วยวังนองแห่งนี้ ที่ยังคงเปิดแต่ก่อนจะเปิดก็ได้สอบถามไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และได้รับอนุญาตให้เปิดได้ เพราะที่นี่ไม่ใช่ตลาดนัดทั่วไป ที่ไม่ทราบว่าผู้ค้ามาจากไหน แต่เป็นตลาดนัดสีเขียวเล็กๆในชุมชนที่มีระบบควบคุมมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ภายในกลุ่ม ผลผลิตที่นำมาจำหน่ายก็มีความปลอดภัย เพราะผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ไม่มีการใช้สารเคมี
ประกอบกับสถานที่จำหน่าย เป็นที่เปิดโล่ง ไม่แออัด ทำให้คนมาซื้อสามารถเว้นระยะห่างทางสังคม ที่คิดว่ามีความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรค ที่สำคัญตลาดแห่งนี้ก็มีมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มตั้งแต่แม่ค้าต้องวางแผงห่างกัน มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือทำความสะอาด ทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย และสำคัญมากคือแม่ค้าพ่อค้าเองที่เดิมเคยคุยกันแบบสนุกสนานด้วยความเป็นกันเองแบบครอบครัวคนอินทรีย์ ตอนนี้ก็ต้องระงับการพูดคุยให้น้อยลงเพื่อกันละอองจากสารคัดหลั่ง
วันนี้ตลาดนัดสีเขียวกินสบายใจห้วยวังนองจากเดิมที่ทุกคนเคยหวั่นเพราะมีสินค้าแล้วไม่มีที่ขาย แต่พอได้รับอนุญาตให้เปิดขายต่อ กระแสตอบรับกลับดีมากเนื่องจากตลาดที่อื่นๆปิดตัว จนต้องเพิ่มวันจากเดิมทีที่เปิดแค่เย็นวันศุกร์ ช่วงนี้ต้องขยายวันโดยการเปิดเพิ่มเย็นวันอังคารอีกหนึ่งวัน เพื่อให้ผู้ซื้อมีทางเลือก มีช่องทางเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัย และผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ PGS กินสบายใจ อีกทั้งผู้ขายก็คือผู้ผลิตในชุมชนที่มีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อผู้ซื้อ ทำให้ผู้มาเดินซื้อไว้ใจในมิตรภาพที่ดีงามได้ แต่สำคัญสุดคือช่วงนี้ต้องทำตามมาตรฐานป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
ใครสนใจมาเดินตลาดนัดสีเขียวกินสบายใจ ห้วยวังนองสามารถมาได้ทุกวันเย็นวันศุกร์และวันอังคาร ตั้งแต่เวลาบ่าย 3 เป็นต้นไป แล้วทุกคนจะพบกับแม่ค้าหน้าใส พ่อค้าใจดี ซื้อผักแถมขนมหวาน มาเด้อพี่น้องเอย
กมล หอมกลิ่น รายงาน
