อุบลราชธานี – เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 ก.ย. เจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ประมาณ 100 คน นำโยนายนครินทร์ สุทัตโต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแต้ม เข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้ างในศรีชัยริเวอร์อินน์ และบ้านไม้หอม เนื้อที่รวมกันประมาณ 4 ไร่ และมีสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านพั กตากอากาศและอาคารเอนกประสงค์ จำนวน 13 หลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการรื้อถอนตามคำสั่งทางปกครองตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่ งชาติ พ.ศ.2504
สำหรับบรรยากาศการเข้ารื้ อถอนในวันนี้ เจ้าของบ้านพักตากอากาศทั้งสองแห่ง ไม่ได้ขัดขืน แต่ได้โต้แย้งสิทธิว่ายังอยู่ ระหว่างการฟ้องร้องในชั้ นศาลปกครองและศาลแพ่ง ไม่ควรเร่งรีบมารื้อถอน ควรให้กระบวนการพิจารณาคดี ของศาลเสร็จสมบูรณ์ก่อน
รวมทั้งวันที่ 27 ก.ย.ศกนี้ คณะกรรมการตรวจพิสูจน์ที่ดิ นในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และอุทยานแห่งชาติ เพื่อขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสื อรับรองการทำประโยชน์ที่ได้รั บการแต่งตั้งจากจังหวัดอุ บลราชธานี จะลงมาพิสูจน์สิทธิ การครอบครองที่ดินที่กำลังเป็ นข้อพิพาทนี้อีกด้วย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 พ.ย.2558 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ ม โดยนายนครินทร์ สุทัตโต ได้เข้าแจ้งความกับพนั กงานสอบสวน สภ.โขงเจียม ให้ดำเนินคดีแก่ผู้ครอบครองสิ่ งปลูกสร้างทำเป็นบ้านพั กตากอากาศริมแม่น้ำโขงในเขตบ้ านกุ่ม ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม จำนวน 5 ราย ทำผิดตาม พรบ.ป่าไม้และสิ่งแวดล้อม บุกรุกถือครองที่ดินในเขตป่ าสงวนและอุทยานแห่งชาติ พร้อมดำเนินการฟ้องร้องต่อผู้บุ กรุกทั้ง 5 ราย เนื้อที่รวมกันประมาณ 20 ไร่
เบื้องต้นศาลได้มีคำพิพากษากรณี นางนิลา สิงห์คีรี และนายบดินทร ศรีชัย เจ้าของบ้านไม้หอม และศรีชัยริเวอร์อินน์ ไม่มีเจตนาบุกรุก แต่เป็นที่ดินคนละแปลงและอยู่ คนละตำแหน่งกับหนังสื อการครอบครอง สค.1 จึงไม่สามารถใช้สิทธิ ในการครอบครองได้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ จึงใช้อำนาจทางปกครองตามมาตรา 21 และ 22 ของ พรบ.อุทยานแห่งชาติปี 2504 ให้เจ้าของรื้อถอนสิ่งปลูกสร้ างทั้งหมดออกไปจากเขตอุทยานแห่ งชาติ แต่เจ้าของไม่ยินยอม เจ้าหน้าที่ จึงเข้าไปดำเนินการรื้อถอนในวั นนี้ ซึ่งรวมถึงศรีชัยริเวอร์อินน์ที่ ตั้งอยู่ติดกันด้วย
ที่เหลืออีก 3 ราย 1 รายอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ส่วนอีก 2 ราย อยู่ระหว่างการบังคับคดี เพื่อให้ดำเนินการรื้ อถอนออกไปเช่นกันกับ 2 รายแรก
ขณะที่นางนิลา สิงห์คีรี และนายบดินทร ศรีชัย เจ้าของสิ่งปลูกสร้างที่ถูกรื้ อในวันนี้ ได้ยื่นอุทธรณ์ให้ยกเลิกคำสั่ งทางปกครองของเจ้าหน้าที่อุ ทยานในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้ างต่อศาลปกครอง ซึ่งศาลปกครองอยู่ระหว่างการพิ จารณา แต่ได้มีการรื้อถอนก่อนศาลมี คำสั่ง จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความกั บพนักงานสอบสวน สภ.โขงเจียม ทราบถึงทรัพย์สินประกอบด้วยสิ่ งปลูกสร้าง และองค์ประกอบในบ้านพักที่ถูกรื้ อถอนมีมูลค่าเท่าใด
เพื่อใช้เป็นหลักฐานยื่นฟ้องร้ องต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชในภายหลัง หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าสิ่งปลู กสร้างทั้งหมดของผู้ครอบครองทั้ งสองราย ไม่ได้ทำผิดตาม พรบ.ป่าไม้และสิ่งแวดล้อม ฐานบุกรุกถือครองที่ดินในเขตป่ าสงวนและอุทยานแห่งชาติต่อไปด้ วย
สำหรับพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ผาแต้มมีเนื้อที่ทั้งสิ้นกว่า 212,500 ไร่ และได้ทำการประกาศเป็นเขตอุ ทยานแห่งชาติเมื่อปี 2534 โดยก่อนการประกาศมีประชาชนเข้ ามาตั้งบ้านเรือน และทำประโยชน์ในพื้นที่ก่อนหน้ านานหลายสิบปี ทำให้เกิดการโตแย้งสิทธิ การครอบครองกันเรื่อยมา แต่ที่พบมีการนำที่ดินไปทำเป็ นบ้านพักตากอากาศมีจำนวน 5 ราย คิดเป็นพื้นที่รวมประมาณ 20 ไร่เศษ ที่เหลือจะเป็นการครอบครองเพื่ อที่อยู่อาศัยและทำเกษตรกรรม
ข่าวโดย เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
