ๅเปิดกลโกงมิจฉาชีพหลอกร้านชำตามหมู่บ้าน ราคาถูกมาก, ส่งถึงบ้าน ไม่ต้องไปซื้อในเมือง, ให้เครดิต 10 วันค่อยเก็บเงิน, แถมลงตู้แช่,ชั้นวางของ,ติดป้าย แต่! ครั้งแรกเปิดบิลต้องจ่ายเงินสด! สุดท้ายหลอกขายของแพงขาดทุนยับ
ศรีสง่า เสนคำสอน ผู้เสียหาย ร้านขายของชำใน ต.นาห่อม อ.ทุ่งศรีอุดม จ.อุบลราชธานี เล่าว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 63 ที่ผ่าน มีกลุ่มชาย 3 คน ขับรถเลขทะเบียนรถ 7 กย 1022 กรุงเทพมหานคร ลงจากรถทำท่าทีเข้ามาเสนอขายสินและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ราคาถูกกว่าท้องตลาด แถมบริการตู้แช่งและชั้นวางสินค้าครบชุดฟรี โดยจะเข้ามาส่งสินค้าถึงร้านค้าทุก 10 วัน ส่วนครั้งถัดไปจะเก็บเงินตามจำนวนที่ร้านขายได้ ซึ่งทั้งหมดมีเงื่อนว่าครั้งแรกร้านค้าต้องทำการเปิดบิลสั่งซื้อก่อนขั้นต่ำ 20,000 บาท
ทั้งนี้ตนและสามีจึงตัดสินใจสั่งซื้อสินค้ากับคนร้ายรวมมูลค่ากว่า 26,000 บาท ขณะจ่ายเงินด้วยที่ความสินค้ามีหลายรายการตนจึงไม่ได้ตรวจสอบจำนวนสินค้าอย่างละเอียด ต่อมาภายหลังเมื่อตรวจดูสินค้าพบสินค้าบางรายการซ้ำกันและบางรายการราคาแพงกว่าที่เสนอขาย ซึ่งเมื่อรวมราคาสินค้าที่ได้รับแล้วคิดเป็นเงินได้ 6,000 บาท โดยเมื่อหักลบแล้วพบว่าถูกโกงสินค้าไปเกือบ 20,000 บาท
เอกลักษณ์ เสนคำสอน ลูกชายผู้เสียหาย เผยว่า หลังจากถูกโกงจึงนำเหตุการณ์ไปโพสต์บน Facebook ปรากฏมีผู้แสดงความคิดเห็นให้ข้อมูลว่ากลุ่มคนร้ายดังกล่าวมีพฤติกรรมตระเวนหลอกขายสินค้าไปทั่วประเทศ ทั้งนี้มีร้านค้าหลายรายถูกกลุ่มคนร้ายนี้หลอกให้ซื้อสินค้าเช่นกัน
นอกจากนี้ พิกุลแก้ว มุกระทำ ผู้เสียหายอีกราย เจ้าของร้านขายของชำใน อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ในเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนร้ายขับรถ ทะเบียน 1ฒฒ 2322 มาที่ร้านอ้างเป็นตัวแทนจำหน่ายจากบริษัทเสนอขายสินค้าราคาถูก โดยลูกค้าต้องเปิดบิลตามราคาที่กำหนด ซึ่งสินค้าแต่ละประเภทมีราคาไม่เท่ากันเช่น หากครั้งแรกเปิดบิล 10,000 บาท ครั้งที่สองจึงจะมีสิทธิ์ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในราคาต่ำกว่าท้องตลาดและสามารถรับสินค้าไปขายก่อน ทุก 10 วัน จึงจะเข้ามาเก็บเงิน พร้อมทั้งบริการตู้แช่ ป้ายโฆษณาและส่งสินค้าถึงร้าน
ซึ่งตนก็ได้ปฏิเสธไปหลายครั้งแต่คนร้านพยายามพูดโน้มน้าวจนหลงเชื่อสั่งสินค้าจำนวน 10,000 บาท ซึ่งเมื่อตรวจสอบสินค้าที่รับเป็นสินค้าไม่ตรงตามรายการสั่งซื้อ มีราคาแพงและเป็นแบรนด์ไม่ติดตลาด โดยรวมมูลค่าสินค้าที่ได้รับแล้วประมาณมูลค่า 4,000 บาท หลังจากทราบว่าถูกโกงตนจึงโทรประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาที่ตั้งของบริษัทแต่ได้ความบริษัทที่คนร้านแอบอ้างไม่มีอยู่จริง
อย่างไรก็ตามผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ได้นำหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด ซึ่งผู้เสียหายยังฝากเตือนพี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อกลโกงดังกล่าว
ชิษณุพงศ์ สุนทรพาณิชย์ เรียบเรียง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: