อุบลราชธานี-เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 ต.ค. ร.ต.อ.มนูญ การกล้า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานี มีคนร้ายใช้ก้อนอิฐปูนทุบทำลายตู้กดเงินสดของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งตั้งให้บริการประชาชนอยู่ด้านข้างสำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานี จึงพร้อมชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัด และเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) สาขาอุบลราชธานี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบก้อนอิฐสามเหลี่ยมที่เจาะออกจากผิวจราจรตกอยู่บริเวณฟุตบาธหน้าตู้กดเงิน 1 ก้อน โดยห่างจากตัวตู้ประมาณ 1 เมตร เมื่อเดินขึ้นไปตรวจสอบพบร่องรอยคนร้ายใช้ก้อนอิฐทุบบริเวณหน้าจอใช้ทำรายการ ช่องจ่ายเงิน กล้องใช้จับภาพของตู้ ATM รวมทั้งตามขอบตัวเครื่องจ่ายเงิน ซึ่งเป็นเครื่องกดเงินแบบเก่าได้รับความเสียหาย
เมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจสอบบริเวณด้านหลังตู้ที่ใช้ใส่กล่องบรรจุเงินสดและอุปกรณ์เตือนภัยอื่นๆ ซึ่งตั้งเข้าไปในรั้วของสำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานี ไม่พบการทุบทำลายหรือการงัดแงะ เพื่อประสงค์เอาเงิน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงเก็บหาร่องรอยลายนิ้วมือจากก้อนอิฐ และบริเวณรอบตัวเครื่องจ่ายเงิน เพื่อใช้เป็นหลักฐานติดตามหาตัวคนที่ก่อเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสจากยามของสำนักงานเทศบาลว่า ได้ยินเสียงดังคล้ายมีคนมาทุบตู้ในช่วงเช้ามืด แต่เมื่อเดินออกมาดูก็ไม่พบเห็นใคร กระทั่งตอนสายมีประชาชนจะใช้บริการก็พบตู้ถูกทุบดังกล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
จึงคาดว่า เป็นฝีมือของกลุ่มป่วนเมืองหรือคนจิตไม่ปกติ เนื่องจากตู้กดเงินตู้นี้ เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ก็ถูกคนร้ายใช้ก้อนอิฐขนาดใหญ่ 2 ก้อน ปาเข้าไปที่หน้าจอและที่ตัวเครื่องจนได้รับความเสียหายมาแล้ว (อีก 2 ก้อนเอามาภายหลัง เพราะเป็นของเก่าที่ใช้ก่อเหตุเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่าน และเจ้าหน้าที่โยนเข้าไปเก็บไว้ที่หลังตู้) แต่ยังไม่สามารถจับตัวคนก่อเหตุได้ เนื่องจากกล้องไม่สามารถบันทึกภาพ เพราะยังไม่มีการทำรายการเบิกจ่าย
และเมื่อตรวจสอบกล้องวงจรตามถนนบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ ก็พบว่าไม่ได้จับภาพไปในทิศทางที่ตู้กดเงินตั้งอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องไปตรวจสอบกล้องในจุดอื่น เพื่อหาเบาะแสผู้ต้องสงสัยที่มาก่อเหตุ
สำหรับที่คนร้ายเข้าทุบตู้ATMของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาถนนอุปราช เสียหาย 3 ตู้เมื่อเช้ามืดวันที่ 1 ต.ค. ก็พบว่ากล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บนเพดาลจำนวน 2 ตัว ไม่ได้มีการบันทึกภาพ เพราะเซฟเวอร์ได้ถูกถอดออกไป หลังย้ายสำนักงานไปยังสาขาใหม่ รวมทั้งคนร้ายที่มาก่อเหตุไม่ได้ทำรายการเบิกจ่ายเงิน ทำให้กล้องที่ติดไว้ที่ตัวเครื่อง ATM ไม่มีการบันทึกภาพในขณะนั้นด้วย
เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์ ข่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: