อุบลราชธานี – พระ โยม เดินหน้าแจ้งความจับอดีตเพื่อนสมัยเรียนหลอกเปิดบัญชี อ้างจะถวายพระประธานตั้งกองบวชพระ 2 รูป ลักไก่ถ่ายรูปลงโซเชียลรับบริจาคเจ้าภาพกองบวช ล่าสุดชาวเน็ตเห็นผิดสังเกตุไม่ยอมปิดรับเงิน ตรวจสอบพบโดนหลอกทั้งพระทั้งโยมยอดเงินร่วมล้านบาท
เพจดังอุบลฯ โพสต์เตือนสติชาวเน็ตใจบุญตรวจสอบให้ดีก่อนโอนเงินเป็นเจ้าภาพบวชพระ ทั้งนี้สืบเนื่องจากมีการแชร์โพสต์ข้อความ ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพงานบวชอุปสมบท 2 รูป (ไม่มีกำหนดสึก) บวชอย่างน้อย 1 พรรษา นายบุญมี ศรีด้วง อายุ 27 ปี และ นายนนท์ติชัย โสภากุล อายุ 33 ปี ซึ่งนาคทั้ง 2 มีฐานะที่ยากจน ไม่มีปัจจัยบวช อีกทั้งทางวัดในช่วงนี้ไม่มีปัจจัยจากญาติโยม โดยจะเป็นการบวชเงียบๆ ไม่จัดงาน ไม่ขัดกฏระเบียบฯ บวช ณ วัดบ้านบัววัด ต.ธาตุ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี วันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2564 สามารถร่วมบุญได้ที่ ธ.กรุงศรีอยุธยา เลขบช. 56x-xxx-9950 ชื่อบัญชี พระปิยะวัฒน์ ปุยฝ้าย
ซึ่งในโพสต์ดังกล่าวมีชาวเน็ตใจบุญ โอนเงินร่วมเป็นเจ้าภาพการบวชครั้งนี้จำนวนมากยอดตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักพันรวมยอดจากสลิปในคอเม้นท์กว่า 30,000 บาท ซึ่งเกินกว่าที่จะใช้ในการบวชพระ 2 รูป ผ่านมา 3 วัน ยังไม่มีการปิดรับบริจาคทำให้ชาวเน็ตบางส่วนเกิดความสงสัย เข้าตรวจสอบที่วัดดังกล่าวมีการบวชจริงหรือไม่
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบพระปิยะวัฒน์ ปุยฝ้าย อายุ 30 ปี ผู้ช่วยเช้าอาวาสวัดบ้านบัววัด นายบุญมี ศรีด้วง อายุ 27 ปี และ นายนนท์ติชัย โสภากุล อายุ 33 ปี และชาวบ้านกำลังพูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น สอบถามพระปิยะวัฒน์ เปิดเผยว่า อาทิตย์ที่ผ่านมาตนได้รับการติดต่อจากนายจักรพล พรมหล่อ อายุ 30 ปี ว่าจะมีคนมาบวชพระที่วัด 2 คน คือนายบุญมี และนาย นนท์ติชัย ชาวบ้านโนนกลางซึ่งตนเองก็รู้จักบุคคลทั้ง 2 จึงได้แนะนำให้มาบอกกล่าวท่านเจ้าอาวาสให้มันถูกต้องตามประเพณี
จากนั้นนายจักรพล ได้พานายบุญมี และ นายนันท์ชัย มาบอกล่าวกับท่านเจ้าอาวาสพร้อมกับขอถ่ายรูปคู่กับท่านเจ้าอาวาส ตนเองก็ไม่คิดว่านายจักรพลจะเอารูปดังกล่าวไปขอรับริจาคแต่อย่างใดจ จนกระทั่งคืนวันที่ 8 พฤษภาคม มีญาติโยมเข้ามาสอบถามเรื่องการรับบริจาคตนเองก็ไม่เข้าใจว่ารับบริจาคอะไร จนมาเห็นเฟซบุ๊คที่มีภาพตนถือสมุดแล้วมีข้อความขอเชิญมาร่วมเป็นเจ้าภาพ บวชนายบุญมี และนายนนท์ติชัย
ตอนนั้นตนรู้สึกตกใจมากจึงได้ปรึกษาผู้ใหญ่บ้าน นัดนายบุญมี และ นายนันท์ชัย มาสอบถามข้อเท็จจริงทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่รู้เรื่องมาก่อนว่านายจักรพล จะเอารูปที่ถ่ายวันมาขอบวชไปลงโซเชียลเพื่อขอรับบริจาคเจ้าภาพงานบวช และทั้งนี้ไม่มีการพูดคุยประเด็นนี้เลย ทุกคนเข้าใจว่านายจักรพลจะเป็นเจ้าภาพเองทุกอย่าง
ส่วนภาพที่มีการถือสมุดบัญชีนั้น พระปิยะวัฒน์ ชี้แจงว่าในวันที่นายจักรพลติดต่อมานั้นได้มีการสอบถามว่าทางวัดต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ตนจึงได้แจ้งไปว่าถ้าอยากได้ก็เป็นพระประธานสำหรับให้ชาวบ้านกราบไหว้เพราะวัดเองก็ไม่มีปัจจัย นายจักรพลจึงได้เสนอให้ตนไปเปิดบัญชีธนาคารและจะโอนเงินค่าพระประธานมาให้ตนจึงได้เดินทางไปธนาคารพร้อมกับ นายจักรพลเพื่อทำการเปิดบัญชีเพื่อรับเงินโอนค่าพระประธาน แต่ก่อนเจ้าหน้าที่ธนาคารจะมอบสมุดบัญชีพร้อมบัตร ATM ให้ตน เจ้าหน้าที่ได้สอบถามว่าต้องการให้ลงแอปพิเคชั่นของธนาคารไหม ขณะนั้นตนเองไม่ทราบว่ามันคืออะไรจึงได้เรียกนายจักรพล จากนั้นนายจักรพลเอามือถือให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อทำแอปพิเคชั่นขณะนั้นตนเองก็ยังไม่รู้ว่าแอปพิเคชั่นคืออะไร เสร็จจากธนาคารนายจักรพลขอถือสมุดบัญชีไว้ แล้วให้บัตร ATM ไว้แทนเมื่อมาถึงวัดนายจักรพลขอถ่ายรูปตอนถือสมุดก่อนแยกย้าย ไม่คิดว่าเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมจะมาทำกันแบบนี้
ด้านนายนนท์ติชัย (เสื้อสีเทาควันบุหรี่)เล่าว่า นายจักรพล มีศักดิ์เป็นหลานเป็นญาติกับตน แต่ไม่เจอกันมานานล่าสุดได้ติดต่อสอบถามมาว่ามีใครอยากบวชไหม 2 คน นายจักรพลจะเป็นเจ้าภาพบวชให้ ตนเองก็เลยตัดสินใจตอบไปว่าจะบวชให้แม่สัก 15 วัน ตนจึงได้ไปชวนนายบุญมี เพื่อนบ้านมาบวชด้วยกันต่อมานายจักรพลได้มารับตนเองและนายบุญมีที่บ้าน ไปวัดเพื่อบอกกล่าวว่าท่านเจ้าอาวาสว่าจะมาบวช เสร็จแล้วนายจักรพลได้บอกให้ตนเองและนายบุญมีถ่ายรูปคู่กับหลวงพ่อเจ้าอาวาส และ พระปิยะวัฒน์ โดยไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีการนำภาพดังกล่าวไปลงโซเชียลหาเจ้าภาพกองบวช
ขณะที่นายบุญมี (เสื้อดำ) เปิดเผยว่าตนเองรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ทราบมาก่อนว่าความตั้งใจที่จะบวชให้แม่ที่เสียชีวิตไปไม่นานต้องกลายมาเป็นเรื่องหลอกลวงชาวบ้านแบบนี้ ในข้อเท็จจริงทั้งหมดตนเองต้องบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีหาเจ้าภาพในการบวชแต่อย่างใด หากรู้ว่าถ่ายรูปเอาไปลงแบบนี้ตนเองก็ไม่เอาด้วยแน่นอน และต่อจากนนี้ก็คงไม่บวชแล้วแต่หากจะบวชจริงๆ ก็จะปรึกษาป้าหรือญาติแทน
นางประยูร โสภากุล อายุ 59 ปี (เสื้อลายดอก) แม่ของนายนนท์ติชัย เล่าว่าเรื่องการบวชนั้นตนได้ทราบจากลูกชายว่านายบิวหรือจักรพล (หลาน) จะตั้งกองบวชให้ด้วยเห็นว่าเป็นหลานตนเองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรอนุโมทนาด้วย ไม่คิดว่าหลานจะมาทำแบบนี้รู้สึกเสียใจที่มาทำแบบนี้ ตอนนี้ครอบครัวได้รับผลกระทบมากโดนดูถูกโดนกล่าวหาว่าหาเงิน หลังเกิดเรื่องยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายจักรพล
แต่อย่างไรก็ตามตนอยากจะขอบคุณทุกคนที่มีจิตกุศลมาเป็นเจ้าภาพบวชให้ลูกชาย สำหรับครอบครัวตนเองถึงจะมีหนี้สินแต่ถ้าลูกชายจะบวชข้ามหม้อแกงหม้อตนก็หาให้ได้อยู่แต่ไม่คิดว่าหลานแท้ๆจะมาทำแบบนี้อยากให้นายจักรพลออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร ออกมาบอกความจริงเพราะตอนนี้ครอบครัวทุกข์ใจเสียใจมาก
ล่าสุดพระปิยะวัฒน์ ได้ทำการอายัดบัญชีไว้แล้วและเดินทางไปติดต่อธนาคารเพื่อขอปิดบัญชีแต่เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่ายังไม่สามารถปิดได้เนื่องจากยังมียอดเข้าอย่างต่อเนื่องและต้องปริ้นเอกสารรายละเอียดบัญชีกว่า 600 หน้า แต่อย่างไรก็ตามเงินที่เข้ามาก็จะไม่สามารถเบิกถอนได้ ซึ่งเรื่องนี้ทางธนาคารได้ทำการรับเรื่องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
ส่วนทางด้านคดี พระปิยวัฒน์ นายบุญมี นายนันท์ชัย ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.วารินชำราบ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายจักรพล ฐานฉ้อโกงประชาชน
เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์ ข่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: