อุบลราชธานี – ชุดสืบสวนเมืองอุบลฯ แถลงผลงานปิดคดี ลักทรัพย์ ปล้นทรัพย์ 9 คดีกวาดทรัพย์สินเกือบ 2 ล้านบาท เผยสาเหตุติดยาเสพติด เศรษฐกิจย่ำแย่ ตกงานมาเป็นอันดับต้นๆ
10.00 น. 30 ส.ค.64 พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี พ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป รอง ผกก สภ.เมืองอุบลราชธานี
ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม 7 ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ และชิงทรัพย์ 9 คดี ในพื้นที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี ที่ด้านหน้า สภ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมของกลางที่ตรวจยึดกว่า 30 รายการ รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาท
สืบเนื่องจากตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2564 ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 29 สิงหาคม มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่ามีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ในร้านอาหารที่ปิดให้บริการในช่วงโควิด และ ไซด์งานก่อสร้าง ท่าทราย
ข่าวน่าสนใจ:
- สหายแสง และพวก แห่จองกฐิน ทนายตั้มฟ้องหมิ่นฯ เรียกค่าเสียหาย 30 ล้าน ยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
- ไทยวัสดุ ผุดเมืองแพร่ ตั้งสาขาที่ 86 ชิงส่วนแบ่งตลาดก่อสร้าง รับการเติบโตในอีก 5 ปี
- ตำรวจเมืองขอนแก่นทำลายอาวุธปืนเถื่อนเกือบร้อยกระบอกหลังคดีถึงที่สุด สร้างความเชื่อมั่น ปชช.
- ประธานสปช.ตรัง เกาะหนึบปัญหาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่สนามบินตรัง 1.2 พันล้าน บุกร้อง รมช.คมนาคมวันนี้
สร้างความเดือดร้อนกับผู้ประกอบการ ประชาชนในช่วงวิกฤติโควิด ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนแยกคนร้ายออกเป็น 4 กลุ่ม ผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 ราย จาก 9 คดี
รายแรกจับกุม นายชาคริต วังตะพันธ์ อายุ 32 ปี ในข้อหา ลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นจากการจับกุมฯ ที่อยู่ 88 หมู่ 6 ต.ขัวก่าย อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ผู้ก่อเหตุตะเวนลักทรัพย์(สายไฟ) ภายในบ้านหรูนักธุรกิจยานยนต์ ชื่อดัง ถนนชยางกูร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี
ได้ทรัพย์สินเป็นเครื่องเจาะปูนขนาดใหญ่ จำนวน 1 เครื่อง สายไฟใหญ่ยาวประมาณ 200 เมตร และ ตะแกรงเหล็ก จากที่ดินเก็บสิ่งของ ถ.ชลประทาน-ท่าบ่อ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี สายไฟขนาด 35 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 50 เมตร จำนวน 4 เส้น จากบ้านของนายเรืองชัย โหตระไวศยะ
รายที่ 2 จับกุม นายณัฐวร บุญช่วย อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 3 หมาย ในข้อหา ลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นจากการจับกุมฯ อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับ ผู้ก่อเหตุตะเวนลักทรัพย์สถานประกอบการที่ปิดให้บริการในข่วงโควิด
ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี จำนวน 3 แห่ง ได้ทรัพย์สินแอร์ติดผนัง จำนวน 5 เครื่อง และเครื่องพัดลม (คอยล์ร้อนของแอร์) จำนวน 4 เครื่อง จากร้านเฟลลิ้ง 97/1 ถ.ธรรมวิธี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
12-18 สิงหาคม 2564 ลักทรัพย์คอมแอร์ จำนวน 4 เครื่อง จากร้านอานานัด ซ.ชยางกูร 40 ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
16 สิงหาคม 2564 เวลา 23.00 น ทวีขนาด 30 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง โต๊ะสนุกเกอร์ขนาดเล็ก เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ จำนวน 1 เครื่อง คอมเพรสเซอร์ตู้แช่อาหาร โน๊ตบุ๊ค จำนวน 1 เครื่อง พัดลมตั้งพื้น จำนวน 1 เครื่อง
อ่างล้างจาน พร้อมเครื่องครัว ชุดเครื่องเสียง สายไฟ ปลั๊กไฟ ถังแก๊สขนาด15 กิโลกรัม จำนวน 2 ถัง ก้อนฟางตกแต่งร้าน จากร้านมัวเมา ซ.ชยางกูร 40 ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2564 เวลา 17.30 น.
จากนั้นขยายผลไปจับกุมนางมณีวรรณ อุ่นสอน อายุ 50 ปี เจ้าของร้านรวมใจรับซื้อของเก่า ซ.ชยางกูร 42 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ในข้อหากล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรและไม่จัดทำบัญชีรับซื้อของเก่าตามพ.ร.บ.ควบคุมการขายทอดตลาดของเก่า พ.ศ.2475
รายที่ 3 จับกุม นายมงคล หรือมอส แก้วรักษา อายุ 20 ปี และ2.นายเพชร หรือเพชร แก้วรักษา อายุ 42 ปี ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นจากการจับกุมฯ หลังเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ได้ เตาแก๊ส , ปั๊มน้ำ , สายไฟ , เศษเหล็ก(น็อต) , เหล็กคอม , ล้อรถแบ็คโฮ และประตูรถแบ็คโฮ บริเวณท่าทรายเก่า (บ้านโพนงาม) หมู่ 7 ต.หนองบ่อ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
สุดท้ายจับกุม นายวีระพล พรมพิทักษ์ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 74 หมู่9 ต.ปทุม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี นายตุลยเดช ทวีสัตย์ อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 310 หมู่3 ต.ปทุม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี นายจิรายุทธ มูลทา อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 18 หมู่14 ต.กุดลาด อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โทรศัพท์มือถือ ของนายอิทธิพล ทะสี อายุ 29 ปี บริเวณด้านหลังโรงเรียนปทุมพิทยาคม ถนนสมเด็จ รวมความเสียหายทังหมด 9 คดี มูลค่า1,800,000 บาท
พ.ต.อ.ธนาพันธ์ กล่าวว่า จากการสอบถามแรงจูงใจของผู้ต้องหา ที่ถูกจับกุมพบว่าส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และการว่างงาน ตกงาน
จึงออยากจะขอให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังตนเองก่อนเก็บรักษาทรัพย์สินของตนเองให้ดี หากเป็นไปได้อยากให้ติดกล้องวงจรปิดเพราะหลายคดีที่ผ่านมาเราสืบสวนจากการแกะกล้องวงจรปิดทั้งสถานประกอบการและบ้านเรือนที่อยู่อาศัย แต่อย่างไรก็ตามผู้บังคับบัญชาเองมีนโยบายอันดับแรกคือการสร้างศรัทธาให้กับประชาชน ประชาชนจะศรัทธาได้ต้องมาจากการทำหน้าที่ของตำรวจให้ดีที่สุด แล้วศรัทธาจะเกิดเอง
เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์ ข่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: