อุบลราชธานี – เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 ธ.ค. ที่วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เทศบาลนครอุบลราชธานี ญาตินายพัทธดนย์ หรือเจมส์ มหานิล อายุ 20 ปี ประกอบพิธีฌาปนกิจ หลังนายพัทธดนย์ ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับต้นไม้แขนหักทั้ง 2 ข้าง และกะโหลกศรีษะด้านข้างแตก เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีคนรู้จักพร้อมเพื่อนๆของผู้เสียชีวิตมาร่วมงานจำนวนมาก
ขณะที่วัดมงคลโกวิทาราม บ้านปากห้วยวังนอง ต.ปทุม อ.เมืองอุบลราชธานี ญาติก็นำศพนายธนากร หรือทีช อาทิเวช อายุ 20 ปี ซึ่งประสบอุบัติเหตุพร้อมกับนายพัทธดนย์ ทำการฌาปนกิจศพ โดยมีญาติและเพื่อนเข้ามาร่วมจำนวนมากเช่นกัน
นายธนูศิลป์ อาทิเวช อายุ 50 ปี บิดาของนายธนากร ได้ออกมาเรียกร้องต้องการคนมารับผิดชอบการเสียชีวิตของบุตรชาย เนื่องจากในคืนวันที่ 26 ธ.ค. บุตรชายได้ขับรถยนต์เก๋งโตโยต้าโซลูน่าสีบรอนซ์เงินทะเบียน กพ 823 อุบลราชธานี ของตนไปหาเพื่อนที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
และกลางดึกเวลาประมาณ 01.10 น. วันที่ 27 ธ.ค.ได้ขับรถกลับมาประสบอุบัติเหตุชนต้นไม้ข้างถนนสถิตย์นิมานกาล แถวหน้า ร.6 พัน 3 เทศบาลตำบลแสนสุข อ.วารินชำราบ เสียชีวิตพร้อมกับนายพัทธดนย์ หรือเจมส์ มหานิล เพื่อนวัยเดียวกัน
แต่ผลการชัยสูตรของแพทย์พบว่า นอกจากลูกชายจะมีบาดแผลจากอุบัติเหตุรถชนต้นไม้จนขาซ้ายหัก ที่แผ่นหลังมีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. กระสุนทะลุปอดและหัวกระสุนมาตุงบริเวนหน้าอกซ้าย พร้อมรับแจ้งว่าที่ลูกชายถูกยิง เพราะพยามขับรถหนีด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วารินชำราบ จึงเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ กับลูกชายและเพื่อนของลูกชายที่ มาเสียชีวิตครั้งนี้ โดยหลังเสร็จงานศพครอบครัวจะติดตามการดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
ต่อมาได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.วารินชำราบ ทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.10 น. วันที่ 27 ธ.ค. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามปฏิบัติหน้าที่ งานจราจร สภ.วารินชำราบ ตั้งจุดตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ด้านหน้าแฮปปี้ รีสอร์ท ถนนนิวาสวิถี ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ มุ่งหน้าเข้าอำเภอเมืองอุบลราชธานี ได้มีรถยนต์นั่งเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีบอร์นเงินคันดังกล่าว มีนายธนากรเป็นคนขับต่อแถวเข้ามายังด่านตรวจ
ต่อมานายธนากร ตัดสินใจ วกรถย้อนกลับทางเดิม เพื่อหลบหนีหนีด่านตรวจ ส.ต.ท.วัชรวิชญ์ บุญเดช ผบ.หมู่งานปราบปรามปฏิบัติหน้าที่งานจราจร และเพื่อนตำรวจได้เข้ายืนขวางหน้ารถไม่ให้หลบหนี แต่คนขับกลับเร่งเครื่องพุ่งเข้าใส่ จนเจ้าหน้าที่ต้องกระโดดหลบ และขึ้นรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับไล่ติดตามไปหน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาอำเภอวารินชำราบ โดย ส.ต.ท.วัชรวิชญ์ จอดรถที่ท้ายรถ ส่วนเพื่อนตำรวจอีกคนจอดรถดักหน้ารถ เพื่อไม่ให้หลบหนีอีก พร้อมแจ้งให้คนขับลงจากรถ
แต่คนขับกลับไม่ยอม ได้ถอยรถมาชนรถจักรยานยนต์ของ ส.ต.ท.วัชรวิชญ์ จนล้มคว่ำ และพยายามเบี่ยงหัวรถจะหลบหนีอีก ส.ต.ท.วัชรวิชญ์ จึงชักปืนพกประจำกายขนาด 9 ม.ม.ยิงสกัดไปที่ล้อรถ แต่ถูกบริเวณกันชนด้านหลัง ซึ่งขณะนั้นไม่ทราบว่า กระสุนทะลุเบาะหลังไปถึงเบาะที่ นั่งด้านหน้าและพุ่งเข้าสู่แผ่นหลังของนายธนากร เพราะไม่ได้ขับไล่ติดตามไป
เนื่องจากรถของเจ้าหน้าที่ถูกชนจนล้ม หลังเลิกด่านตรวจ ส.ต.ท.วัชรวิชญ์ ได้มาลงประจำวันที่สถานีว่า มีรถพยายามหลบหนีการจับกุม และขับชนเจ้าหน้าที่ จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงสกัดไป 1 นัด
และหลังนายธนากรได้ขับรถหนี ไปจากหน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก็ได้ไปประสบอุบัติเหตุชนกับต้นไม้และติดคาอยู่ในซาก และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ นำเครื่องมาตัดถ่างนำร่างของคนเจ็บทั้ง 2 คน ส่งให้แพทย์รักษาที่ โรงพยาบาลประจำอำเภอ แต่ทั้งคู่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังการชันสูตรของแพทย์พบว่า นอกจากนายธนากร คนขับจะมีบาดแผลที่บริเวณขาซ้ายหักแล้ว ยังมีบาดแผลถูกยิงเข้าแผ่นหลังกระสุนทะลุปอดมาตุงที่หน้าอกซ้ าย 1 นัด
เบื้องต้นขณะนี้ พ.ต.อ.อดิเทพ พิชาดุลย์. ผกก.สภ.วารินชำราบ ได้มีคำสั่งให้ ส.ต.ท.วัชรวิชญ์ ย้ายมาช่วยราชการฝ่ายอำนวยการ สภ.วารินชำราบ และให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากพบความผิดก็จะแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: