อุบลราชธานี – ที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี
พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ธนภาค ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับตัวแทน 6 ฝ่าย ประกอบด้วยที่ดินจังหวัด ยุติธรรมจังหวัด อัยการจังหวัด ฝ่ายปกครอง ทหารมณฑลทหารบกที่ 22 เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
นำเจ้าหนี้และลูกหนี้ที่กู้ยืมเงิน โดยนำที่ดินใช้ค้ำประกันเงินกู้ มาทำการไกล่เกลี่ยในวันนี้ จำนวนกว่า 10 ราย คิดเป็นมูลค่าของหลักทรัพย์ที่ใช้วางค้ำประกันเงินกู้กว่า 30 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ยนายทุนยินยอมคืนโฉนดที่ดินที่เอามาวางค้ำประกันเงินกู้ให้กับลูกหนี้ทุกราย และได้มีการทำสัญญาฉบับใหม่ โดยให้ลูกหนี้ยังต้องมีหน้าที่ชำระเงินกู้ในส่วนที่เหลืออยู่คืนให้กับเจ้าหนี้ รวมทั้งดอกเบี้ยในอัตราที่กฏหมายกำหนดคือร้อยละ 15 ต่อปี และยังห้ามลูกหนี้นำโฉนดที่ดินได้รับคืนไปจำนองหรือขายให้กับผู้อื่น หากลูกหนี้ขายก็ต้องนำเงินมาปิดยอดเงินคงค้างกับนายทุนที่มอบโฉนดคืนให้กับลูกหนี้ด้วย
พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ธนภาค ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดศูนย์ปฏิบัติการปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนของจังหวัดเมื่อวันที่ 27 ก.ค.2561 ถึงวันที่ 9 ม.ค.2562 มีการจับกุมดำเนินคดีกับกลุ่มนายทุนที่ทำนิติกรรมอำพราง ให้ลูกหนี้นำโฉนดที่ดินหรือทรัพย์สินที่มีมูลค่าวางคำประกันเงินที่กู้ยืน โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินที่กฏหมายกำหนดแล้ว 48 คดี และศาลได้ตัดสินลงโทษทั้งจำและปรับนายทุนเหล่านี้ไปแล้วรวม 7 ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างการส่งฟ้องศาล สามารถยึดโฉนดมาคืนให้กับลูกหนี้ จำนวน 715 ฉบับ เนื้อที่กว่า 2,944 ไร่ คิดเป็นมูลค่าจากราคาประเมินกว่า 1,042 ล้านบาท รถยนต์ 5 คัน รถจักรยานยนต์ 35 คัน และยังอยู่ระหว่างการไกล่เกลี่ย
และ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะทำการคืนโฉนดให้ลูกหนี้ชาวอุบลราชธานี ที่ผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ยเสร็จเรียบร้อยอีก 120 รายในวันที่ 30 ม.ค.ที่จังหวัดนครราชสีมา หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเปิดรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน หากพบมีนายทุนทำนิติกรรมอำพรางเรียกเก็บดอกเบี้ยโหดกับลูกหนี้ เจ้าหน้าที่จะใช้วิธีเข้าจู่โจมจับกุม หากนายทุนรายใดเข้าลักษณะฉ้อโกงประชาชน ก็จะถูกดำเนินคดีและถูกติดตามยึดทรัพย์ตามกฏหมายของ ป.ป.ง.ด้วย
ด้านนางสุขคติ มิ่งขวัญ อายุ 52 ปี ลูกหนี้จากอำเภอโพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี ซึ่งนำโฉนดที่ดินเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ไปค้ำประกันเงินมาดาวน์รถไถนาและรถเกี่ยวข้าวมูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท เมื่อต้นปี 2561 และเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้รับโฉนดที่ดินคืนครั้งนี้ กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจที่ได้ที่ดินคืน เพราะที่ผ่านมานอนไม่หลับ เกรงจะถูกยึดที่ดิน หากไม่สามารถผ่อนชำระเงินค่ารถที่ดาวน์มาใช้ประกอบอาชีพ
โดยที่ผ่านมาต้องจ่ายเงินเป็นค่างวดรถเดือนละ 2,000 บาท และค่างวดรถรายปีอีกปีละกว่า 1 แสนบาท เมื่อได้ที่ดินคืนมา ก็ยังต้องผ่อนชำระค่างวดรถตามปกติต่อไป แต่ก็คลายความกังวลเรื่องที่ดินลงไปได้มาก และจะไม่นำที่ดินไปวางค้ำประกันเงินกู้ใดๆอีกต่อไปด้วย
ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: