“ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ยืนยันการเลือกพรรคเพื่อชาติ ทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยได้เสียงเพิ่มขึ้น แต่ไม่เน้นจำนวนของที่นั่ง ส.ส.ในสภา พร้อมไม่สนจะมีเลือกตั้งวันไหน ขอแก้ปัญหาชาติ ปัญหาราคาพืชไร่ตกต่ำให้ชาวบ้านเป็นสำคัญ
ที่ศาลหลักเมือง จ.อุบลราชธานี นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง พร้อมด้วยนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายอารี ไกรนรา รองหัวหน้าพรรค นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แกนนำคนเสื้อแดง และผู้สมัครทั้ง 10 เขตของจังหวัดอุบลราชธานี
ได้กราบนมัสการศาลหลักเมืองและอนุสาวรีย์ท้าวคำผง ผู้ก่อตั้งเมืองอุบลราชธานี ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กัน ก่อนไปเดินทักทายพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนในตลาดสดเทศบาล 3 (ตลาดใหญ่) เทศบาลนครอุบลราชธานี เพื่อแนะนำตัวผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่ 1
โดยมีบรรดาแฟนคลับและกลุ่มคนเสื้อแดงที่ชื่นชอบนายจตุพร มอบพวงมาลัยและขอถ่ายรูปเป็นทีระลึก และระหว่างการเดินหาเสียงของนายจตุพร พรหมพันธุ์ และคณะในตลาดสดเทศบาล 3 (ตลาดใหญ่) ก็พบกับคณะหาเสียงของ ดร.พิสิฐ ประเสริฐศรี อดีตประธาน ป.ป.ช.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 อ.เมืองอุบลราชธานี พรรคเสรีรวมไทย ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ซึ่งมาเดินขอคะแนนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดเดียวกันด้วย
นายจตุพร ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งผู้สมัครของพรรคเพื่อชาติในภาคอีสาน พรรคส่งครบทั้ง 116 เขต รวมทั้งจังหวัดอุบลราชธานี ที่มี 10 เขต โดยวันนี้จะหาเสียงที่อุบลราชธานี ตามด้วยศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์เป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียงในช่วงนี้
สำหรับเป้าหมายที่นั่ง ส.ส.พรรคเพื่อชาติ เคยประกาศเจตนารมณ์ชัดเจน คือ เน้นเรื่องการแก้ไขปัญหาของชาติเป็นหลัก ส่วนจำนวนสมาชิกจะเป็นผลตามมาทีหลัง ไม่มีการประกาศลักษณะตัวเลขจะได้เท่านี้เท่านั้น เพราะจำนวนเสียงเป็นเรื่องเล็กกว่าความตั้งใจในการแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง
นโยบายของพรรคเพื่อชาติ คือ แก้ไขปัญหาความยากจน ราคาพืชผลทางการเกษตร เพราะช่วง 5 ปีนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่ขายสินค้าขาดทุน ทั้งข้าว พืชไร่ พืชสวน จึงเป็นภาระของพรรคต้องไม่ให้เกษตรกรที่ยากลำบากอยู่แล้วขายสินค้าเกษตรขาดทุน ต้องพออยู่ได้อย่างมีความสุข
และเรื่องต่อมา ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย โดยมีผู้สูงวัยถึง 1 ใน 5 ของจำนวนประชากรทั้งหมด จำเป็นต้องได้รับการเอาใจใส่ ไม่พูดถึงแต่คนรุ่นใหม่ แล้วละเลยผู้สูงวัย ซึ่งเดิมเงินสนับสนุนผู้สูงอายุที่รัฐมอบให้เป็นขั้นบันได แต่พรรคเพื่อชาติจะเสนอให้ราคาเดียวคือ 2,000 บาทต่อเดือนตลอดชีพตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และจะยกระดับโรงพยาบาลประจำตำบลให้รักษาผู้ป่วยในขั้นต้น ไม่ต้องไปโรงพยาบาลระดับอำเภอ เพื่อเป็นการบรรเทาเยี่ยวยาผู้ป่วยกันก่อน
รวมทั้งนโยบายการพาประเทศไทยข้ามพ้นวิกฤตการณ์ของชาติขณะนี้ “การเลือกพรรคเพื่อชาติเป็นการเพิ่มเสียงให้ฝ่ายประชาธิปไตย ไม่ใช่เป็นการมาตัดคะแนนกัน” ส่วนการเลือกตั้งจะเป็นวันไหนไม่สำคัญ พรรคเพื่อชาติยังทำหน้าที่อย่างเข้มข้นแข็งแรงต่อไป
สำหรับการลงพื้นที่หาเสียงของนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ที่จังหวัดอุบลราชธานี จะตระเวนหาเสียงและเปิดสถาบันพัฒนาการเมืองของพรรคในเขตเลือกตั้งที่ 4 อำเภอเดชอุดม ในช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายที่เขตเลือกตั้งที่ 10 อำเภอน้ำยืน สุดท้ายที่เขตเลือกตั้งที่ 8 อำเภอพิบูลมังสาหาร
ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
