อุบลราชธานี – ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเดชอุดม จ.อุบลราชธานี นายอุตตม สาวนายนต์ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ ภาคอีสาน นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ ภาคกลาง และกรรมการบริหารพรรค พร้อมผู้สมัครของพรรคใน 4 จังหวัดอีสานตอนล่างจำนวน 23 เขต เปิดเวทีปราศรัยช่วย น.ส.ตวงทิพย์ จินตะเวช บุตรสาวของนายตุ่น จินตะเวช อดีต ส.ส.หลายสมัยของเขตเลือกตั้งที่ 4 ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว
นายอุตตม กล่าวปราศรัยกับประชาชนที่ให้การสนับสนุนกว่า 5,000 คน ถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่า เป็นสิ่งที่พรรคจะดูแลพี่น้องประชาชน ด้วยการเพิ่มสวัสดิการในบัตรครอบคลุมมากยิ่งขึ้นกว่านี้ เพราะเป็นนโยบายที่ประชาชนจับต้องได้ ไม่ใช่ขายแต่ฝัน วันนี้มีของจริงให้เห็นกันอยู่ วันข้างหน้าจะต้องได้รับยิ่งขึ้นไป เพราะเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนสมควรได้รับการดูแลจากรัฐ
นอกจากนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม จำเป็นที่เกษตรกรต้องมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง โดยต้องมีสิทธิในที่ดินอย่างสมบูรณ์ เพื่อไปต่อยอดใช้เป็นทุนในการกู้ยืมเงินมาลงทุนได้ และต้องช่วยลดต้นทุนการเพาะปลูก โดยเอาเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับพื้นที่มาใช้ ประการสำคัญต้องปลดภาระหนี้นอกระบบ ให้กับเกษตรกรและพี่น้องประชาชนทุกคน ถ้าพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล จะต้องเคลียร์หนี้ของเกษตรกรภายใน 3-5 ปี เพื่อให้มีต้นทุนถูกลงในการทำเกษตร
รวมทั้งสนับสนุนตั้งโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคอีสาน เพื่อการแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ราคาสูงกว่าอดีต พรรคถือเป็นโยบายสำคัญต้องผลักดันเรื่องนี้ให้กับเกษตรกรสามารถยืนบนขาของตัวเองได้
พร้อมทั้งประกาศจะแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดอย่างเด็ดขาด เพื่อให้ประเทศไทยเป็นสังคมสีขาว สร้างความสุขให้กับครอบครัวคนไทย ปราศจากคนติดยาเสพติด ทำให้คนในครอบครัวปลอดจากโรคภัย และมีกำลังไปประกอบอาชีพสร้างอนาคตให้ตนเองได้ เรียกเสียงปรบมือจากประชาชนที่มาร่วมฟังตลอดเวลา
นายอุตตม เปิดเผยถึงการหาเสียงภายใต้กติกาที่ กกต.ได้กำหนดกรอบไว้อย่างรัดกุมในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า เมื่อ กกต.มีกฏกติกาให้พรรคการเมืองต้องทำอย่างไร พรรคก็ต้องทำไปตามเกม ตามกฏที่ให้มา ก็หวังว่าทุกคนทุกพรรค ต้องสู้กันในกรอบ สุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าไว้วางใจใคร
สำหรับกรณีการเสนอชื่อคนที่พรรคจะให้มาเป็นนายกรัฐมนตรีว่า การเสนอชื่อยังสามารถนำส่งชื่อถึง กกต.ได้ถึงวันที่ 8 ก.พ. โดยจะส่งรวมทั้ง ส.ส.เขต ส.ส.ปาตี้ลิสต์ และชื่อของผู้ที่พรรคเห็นสมควรจะเป็นนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่ายังคงเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช่หรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า ตอนนี้ เรายังไม่ไปทาบใคร ให้รอดู เพราะจากวันนี้ถึงวันที่ 8 ก.พ.ไม่นานแล้ว ให้รอดู
สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 4 แห่งนี้ เดิมเป็นพื้นที่ของนายตุ่น จินตะเวช บิดา น.ส.ตวงทิพย์ ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อนายตุ่นเสียชีวิต พรรคจึงได้ทาบทามน.ส.ตวงทิพย์ บุตรสาวที่เป็นอดีตสมาชิกสภาจังหวัดมาลงแข่งกับนายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีคะแนนเสียงดี แต่พ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับนายตุ่น ผู้เป็นบิดามาโดยตลอด จึงต้องติดตามดูกันว่าพรรคพลังประชารัฐ จะสามารถรักษาที่นั่ง ส.ส.ของเขตนี้ไว้ได้ตามเดิมหรือไม่
หลังการปราศรัยที่เขตเลือกตั้งที่ 4 อ.เดชอุดมในช่วงเช้า นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐพร้อมกรรมการบริหารพรรคและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมด ได้เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่ 10 ที่หอประชุมโรงเรียน อ.น้ำยืน และที่เขตเลือกตั้งที่ 9 อ.นาจะหลวย ในช่วงบ่ายวันเดียวกันด้วย
ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
