นางครองใจ เครือสิงห์ อายุ 48 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขื่องในจับกุมในบ้านพักเลขที่ บ้านเลขที่ 44 ม.8 บ้านโนนจานใหญ่ ต.ท่าไห อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี หลังจากก่อเหตุใช้มีดอีโต้ทำร้ายร่างกาย นางมาลัย ชูเนตร อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ เสียชีวิต และ นายอภัย เครือสิงห์ อายุ 45 ปี เป็นน้องชายได้รับบาดเจ็บ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานศพนางมาลัยซึ่งตั้งภายใน วัดศรีโพธิ์ชัย หมู่ที่ 2 บ้านท่าไห ต.ท่าไห อ.เขื่องใน เป็นไปด้วยความเรียบง่ายตามประเพณีหมู่บ้านอีสาน ตั้งบำเพ็ญกุศล 1 คืน ในช่วงเช้าวันนี้(31 มี.ค.) มีการทำบุญถวายอาหารเพลแด่พระสงฆ์ และจะทำการฌาปนกิจศพในช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีชาวบ้านในหมู่บ้านประมาณ 100 คน มาร่วมงานพร
นางสาว พิศมัย อินต๊ะเมา อายุ 47 ปี พี่สาวนางมาลัยผู้ตายเปิดเผยว่า คืนวันเกิดเหตุช่วงกลางวันน้องสาวก็อยู่บ้านตามปกติประมาณ 19.00 น. ตนมาตามหาน้องสาวเพื่อไปทานข้าวเย็นแต่ก็ไม่เจอ ตนก็ไม่ได้สนใจอะไรเนื่องจากน้องสาวจะออกนออกบ้านเป็นประจำอยู่แล้ว ต่อมาประมาณ 23.00 น. ผู้ใหญ่บ้านเข้ามาบอกว่าน้องสาวถูกฟันอาการสาหัสอยู่ที่โรงพยาบาลกำลังปั้มหัวใจเป็นตายเท่ากัน
เมื่อไปถึงโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่ได้ห่อศพน้องสาวเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งแจ้งว่าไม่สามารถช่วยเหลือได้ทัน ส่วนการเกิดเหตุตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวกับทางฝั่งผู้ก่อเหตุนั้นตนไม่เคยเห็นหน้าไม่เคยกุยกันมาก่อน น้องสาวกับแฟน(น้องชายผู้ก่อเหตุ)คบหากันมานานแล้วไปมาหาสู่กันเป็นประจำแต่ยังไม่มีลูกหากฝ่ายชายไม่อยู่ก็จะมานอนที่บ้านของตน
ข่าวน่าสนใจ:
ด้านนางสาวยุภาพร ชูเนตร อายุ 26 ปี ลูกสาวนางมาลัย กล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าวหาว่าผู้ตายเข้าไปขโมยของในบ้านมาขายนั้น ตนสงสัยว่าถ้าหากไม่มีคนพาเข้าไปแม่คงไม่กล้าเข้าไปตนก็ไม่เข้าใจว่าในบ้านมีอะไรให้ขโมยให้ไปขายเอาเงินไปซื้อ 10-20 บาท หรือหากว่าเข้าไปขโมยจริงทำไมถึงต้องฟันกันขนาดนี้ทำเหมือนหมู เหมือนหมา ทำราวกับว่าเค้าไม่มีครอบครอบครัวและตนอยากให้สังคมได้ให้ความเป็นธรรมด้วยเพราะคนที่ตายไปแล้วไม่สามารถที่จะลุกขึ้นมาอธิบายอะไรได้ตอนที่มีข่าวออกไปก็มีแต่ข้อมูลของฝั่งเดียวจึงอยากให้สังคมได้ให้ความเป็นธรรมเพราะบาดแผลที่ศพมีอยู่บนศรีษะมากกว่า 5 แผล แผลลึกที่สุดมีขาดความลุกถึง 15 ซม เนื้อสมองช้ำ อีกทั้งบาดแผลตามตัวรวมแล้วมากกว่า 10 แผล
พ.ต.ท.วิโรจน์ แขนอก สารวัตร(สอบสวน) สภ.เขื่องใน เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุคืนวันที่ 29 มี.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมทั้งควบคุมตัว นางครองใจ เครือสิงห์ อายุ 48 ปี ซึ่งอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวมาสอบสวนเบื้องต้น นางครองใจ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือใช้อาวุธมีดอีโต้ฟันผู้ตายและน้องชายจริง เหตุเพราะโมโหที่ผู้ตายและน้องชายมักจะมาขอเงินจากแม่ไปดื่มสุราอยู่เป็นประจำ วันเกิดเหตุผู้ตายได้เข้ามาที่บ้านในช่วงเวลากลางคืนนางครองใจ จึงได้ถือมีดออกมาเพื่อป้องกันตัวและได้มีปากเสียงกันจนทะเลาะวิวาทฟันผู้ตายแลน้องชายจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
ส่วนของคดี พ.ต.ท.วิโรจน์ ได้มีการสอบสวนพร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และทำร้ายร่างกายผู้แนจนได้รับบาดเจ็บ นำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานีเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 30 แล้ว ส่วนการประกันตัวนั้นอยู่กับญาติที่จะประกันตัวชั้นศาล
อนึ่ง ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 44 ม.8 ต.ท่าไห อ.เขื่องใน ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ เพื่อขอทราบรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ทางญาติไม่ยอมให้สัมภาษณ์ เนื่องจากยังไม่พร้อมและไม่มีอะไรจะคุยกับผู้สื่อข่าวในตอนนี้
ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: