อุบลราชธานี – สืบสวนเมืองอุบล รวบหนุ่มศรีสะเกษทำประเพณีเสื่อม ลวนลามสาวอุบลฯขณะเดินทางมาเที่ยวถนนสายน้ำ พลเมืองดีถ่ายคลิปโซเชียลแชร์ว่อน ร้อนเจ้าหน้าที่ตำรวจตามตัวดำเนินคดี ผบก.อุบลฯ เผยคดีนี้หนักโทษจำคุกอาจถึง 10 ปี ชี้ให้ระวังต้องมีสติ
เมื่อเวลา 20.00 น. (14 เม.ย) ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีที่โลกโซเชียลเผยแพร่ภาพ กลุ่มชายวัยรุ่นนั่งท้ายรถกระบะเล่นสนุกเลยเถิด กรูลงมาจากท้ายรถกระบะ กอดล็อกคอสาว จูบแก้ม แถมจับหมับเข้าที่ก้นของสาวนักท่องเที่ยว โน้มคอมาจูบในงานสงกรานต์จังหวัดอุบลราชธานี จนมีคนถ่ายภาพไว้ได้เมื่อวันที่ 13 เม.ย.62 ที่ผ่านมา ทำให้ชาวเน็ตต่างวิจารณ์ต่อว่าอย่างมากมาย
ล่าสุด พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ธนภาค ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อดิเทพ พิชาดุลย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี พ.ต.ท.ศิริพงษ์ สุดา รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี ออกสืบสวนติดตามชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดี เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและสร้างความเสื่อมเสียภาพลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานี
จากการสืบสวนติดตามทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายพิพัฒน์พงษ์ สิงห์แสน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 หมู่ 3 ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ จึงได้เดินทางไปยังบ้านดังกล่าวเพื่อเชิญตัวนายพิพัฒน์พงษ์ มาพบ ร.ต.อ.พรชัย แจ่มเชื้อ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาว่า กระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล ตาม ป.อาญา ม.278 จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท นายพิพัฒน์พงษ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมทั้งขอโทษผู้เสียหายและชาวจังหวัดอุบลราชธานี ที่มาสร้างความเสื่อมเสียดังกล่าว ทำไปเพราะความคึกคะนองและเมา เบื้องต้นนายพิพัฒน์พงษ์ ยังเปิดเผยต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าก่อหน้าเคยถูกจับในคดีอาวุธปืนมาแล้ว 1 ครั้ง ศาลสั่งจำคุก 9 เดือน ปรับ 6,000 บาท และเพิ่งเสพยาบ้าไปเมื่อ 2 วันก่อน
ด้านนางสาวหน่อย (นามสมมุติ) เปิดเผยว่าตนเองเป็นคนอำเภอวารินชำราบ แต่ไปทำงานในจังหวัดสมุทรปราการ หยุดในช่วงสงกรานต์ กลับบ้านมาหาครอบครัว วันเกิดเหตุ ตนได้เจอกลุ่มผู้ก่อเหตุครั้งแรกบนสะพานข้ามแม่น้ำมูลโดยผู้ก่อเหตุพยายามที่จะหอมแก้มแล้ว 1 ครั้ง แต่ตนสามารถปัดได้ จนมาจอดคู่กันบริเวณไฟแดง จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ลงมาจากรถตามคลิป ตนเองรู้สึกไม่พอใจที่จะมาหอมแก้มแค่ปะแป้งธรรมดาตนรับได้แต่ไม่น่าจะมาหอมแก้มกัน
ข่าวโดย : กิตติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: