อุบลราชธานี – ช่างซ่อมรถหนุ่มควบกระบะไปหาพี่ชายเสียหลัก แหกโค้ง มรณะบ้านห้วยคุ้มจนเสาไฟฟ้าขาดครึ่ง กู้ภัยเร่งตัดถ่างเต็มท่ามกลางกระแสไฟฟ้า แต่ไม่ทันคนขับเสียชีวิตคาดที่
เมื่อเวลา 21.10 (25 พ.ค.) ร.ต.อ.ประกรรษวัต เณรแขก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้า บริเวณโค้งบ้านห้วยคุ้ม ถ.ชยางกูร(ขาออก) ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในไม่สามารถเอาออกมาได้ ประสานหน่วยกู้ชีพองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี หน่วยกู้ภัยมูลนิธิการกุศลอุบลราชธานี พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างกู้ภัย เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ที่เกิดเหตุเป็นทางตรงต่อเนื่องจากโค้งขวาเข้าบ้านห้วยคุ้ม เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งใช้เครื่องตัดถ่างเข้าทำการงัดร่างนายธรรมสรณ์ ชนุตร์ธนพันธ์ อายุ 28 ปี ช่างซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่งในเขตตำบลขามใหญ่ ออกจากด้านหน้ารถกระบะอีซูซุ ดีแม็ก สี บร์อนเทา หมายเลขทะเบียน กจ 3745 อุบลราชธานี ที่ชนเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างทางขาด 2 ท่อน ท่ามกลางกระแสไฟฟ้าที่ยังไม่ถูกตัด แต่ความพยายามไม่เป็นผลนายธรรมสรณ์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
สอบถามนางสาวนก(นามสมมุติ) มารดาของนายธรรมสรณ์ ให้การว่าลูกชายทำงานเป็นช่างซ่อมรถยนต์กับบิดาหลังจากปิดอู่ได้เข้าไปอาบน้ำก่อนจะออกไปหาพี่ชายที่เปิดร้านซ่อมท่อรถห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าจะไปที่ไหนกันต่อยืนยันลูกชายไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเพิ่งปิดอู่แล้วออกมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่านายธรรมสรณ์ อาจจะขับรถกระบะคันเกิดเหตุมาด้วยความเร็วเมื่อมาถึงโค้งที่เกิดเหตุจึงทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ ทำให้เสียหลักพุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าที่เกิดเหตุจนขาด 2 ท่อนและตัวเองถูกอัดติดภายในรถขนเสียชีวิต แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนพยานใกล้เคียงและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง ส่วนร่างของนายธรรมสรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้หน่วยกู้ภัยนำส่งนิติเวชโรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน
สำหรับโค้งบ้านห้วยคุ้ม ถนนชยางกูร ขาเข้า และ ขาออกตัวเมืองอุบลราชธานี มักจะเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์เสียหลักแหกโค้งจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่เป็นประจำ ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมาได้เกิดอุบัติเหตุ รถกระบะเสียหลักพุ่งชนบ้านพักอาศัยและห้องแถวข้างทางได้รับความเสียหาย 4 หลัง รถยนต์ จักรยานยนต์ เสียหายรวม 4 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วเกิดที่กฎหมายกำหนด แม้จะมีการติดตั้งสัญญาณไฟ และป้ายเตือนก็ตาม
ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: