อุบลราชธานี – ชีวิตมนุษย์นอกจากต้องเวียนว่ายอยู่ในวัฏจักรของการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย แล้ว ยังต้องมีการผจญกับชะตาที่แตกต่างกันออกไป เช่น นักศึกษาเรียนดี นางสาววรรณภา วิชาพูล อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะครุศาสตร์ เอกภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ซึ่งบ้านที่อาศัยมาตั้งแต่เกิดประสบอัคคีภัยไฟไหม้จนหมดทั้งหลัง
โดยเรื่องราวของเธอเราได้รับแจ้งจากนายสันติ ทิพนา ซึ่งเป็นอาจารย์ในภาควิชาที่เธอเรียนอยู่ในปัจจุบัน และเห็นถึงความตั้งใจเรียน เป็นคนกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ จึงขอให้เข้าไปช่วย เพื่อให้ครอบครัวตั้งตัวได้จากเคราะห์กรรมครั้งนี้
นางสาววรรณภา หรือวัน เล่าถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องจดจำมาถึงทุกวันนี้ว่า ช่วงปิดภาคเรียนในเดือนเมษายนเธอได้กลับมาช่วยงานที่บ้านเรืองอุดม ต.แก้งเหนือ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ระหว่างที่เธอและแม่ต้อนฝูงวัว ควายไปเลี้ยงอยู่กลางทุ่งนาห่างจากบ้านไปประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ ในช่วงบ่ายของวันที่ 23 เมษายน เธอมองเห็นเปลวเพลิงลุกไหม้เกิดขึ้นใกล้กับจุดที่ตั้งบ้านของเธอ ที่เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูงเหมือนบ้านตามชนบททั่วไป
จึงวิ่งกลับมาดูบ้านพลางก็ตะโกนบอกเพื่อนบ้านที่เธอวิ่งผ่านให้ช่วยกันไปดูจุดที่เกิดเพลิงไหม้ขึ้น เมื่อวิ่งมาถึงพบกับกลุ่มเพื่อนบ้านส่วนหนึ่ง ซึ่งเห็นเหคุการณ์ช่วยกันนำถังน้ำมาดับไฟ และอีกส่วนก็ช่วยกันลากรถไถนาเดินตามที่จอดไว้ใต้ถุนบ้านออกมา เพราะระหว่างเกิดเหตุพ่อก็เข้าไปทำธุระในหมู่บ้าน ทำให้รถไถนาเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เหลือจากเพลิงไหม้ครั้งนั้น
ส่วนเสื้อผ้า เครื่องใช้ในบ้าน รวมทั้งรถจักรยานยนต์ที่เธอขี่ไปเรียน วอดไปกับกองเพลิงทั้งหมด สำหรับสาเหตุนั้น ทราบเพียงว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากวันเกิดเหตุเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนกว่าปกติ อุณภูมิสูงถึง 38-40 องศาเซลเซียนของฤดูร้อนอันโหดร้ายปีนี้ ซึ่งเธอก็บอกว่า ครอบครัวไม่ได้ประมาทเรื่องฟืนไฟ เพราะเมื่อปีที่ผ่านมา หลังขายข้าวได้ราคาดี แม่ก็ได้จ้างช่างมาเดินสายไฟบ้านที่เกิดเหตุใหม่ทั้งหลัง แต่ไม่ทราบว่าเกิดเพลิงไฟไหม้ได้อย่างไร
ข่าวน่าสนใจ:
- ขอนแก่นพร้อมเป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติครั้งที่ 44 "ขอนแก่นเกมส์ "22 – 30 มกราคม 2568
- ชัยภูมิ นทท.แห่สัมผัสทะเลหมอกน้ำค้างแข็งหลายพื้นที่แตะ 7 องศาคึกคัก!
- ขอนแก่น จัดงานสุดยอดมหกรรมเทศกาลอาหาร “ขอนแก่นแซ่บเวอร์ Soft power foodThailand”พบการแสดงศิลปวัฒนธรรมอีสาน และศิลปินชื่อดังระหว่างวันที่ 25-29…
นางสาววรรณภา หรือวัน เล่าว่า หลังเหตุการณ์เธอและครอบครัว ก็ก้มหน้ารับกับชะตากรรมที่เกิดขึ้นกับครอบครัว ต้องพากันไปนอนอยู่ในโรงเก็บฟางที่ใช้เลี้ยงสัตว์ ส่วนเสื้อผ้าก็ได้เพื่อนบ้านใจดีช่วยกันบริจาคมาให้ใช้สวมใส่ สำหรับข้าวปลาอาหาร ก็ได้รับความช่วยเหลือจากเงินบรรเทาทุกข์ และเงินบริจาคของชาวบ้าน จากวัดในหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลแก้งเหนือ รวมทั้งเงินบริจาคจากคณะของมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด จากคณะเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งรวมกันประมาณ 4 หมื่นบาท เพื่อให้ครอบครัวนี้ตั้งหลักใช้ชีวิตต่อไปได้
และล่าสุดได้รับเงินส่วนตัวจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด เพื่อใช้เป็นทุนไปลงทะเบียนเรียนต่อในภาคเรียนที่หนึ่งของปีการศึกษา 2561 เพื่อให้เธอสามารถเรียนต่อไปได้
เมื่อถามนางสาววรรณภา สิ่งที่ต้องการมากที่สุดในเวลานี้ คือ การที่บิดาและมารดาที่มีอายุถึง 59 ปี ได้มีที่ใช้พักอาศัยหลบแดดหลบฝน เป็นแค่เพียงบ้านชั้นเดียวหลังเล็กๆก็พอใจแล้ว เพราะอีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว และหลังคาโรงเก็บฟางก็รั่ว พื้นที่ให้นอนก็มีเพียงแคร่ไม้เพียงตัวเดียว ส่วนตนก็ยังทำอะไรไม่ได้ ต้องไปเรียนต่อในชั้นปีที่ 4 ซึ่งต้องไปฝึกสอน เพื่อเก็บคะแนนให้เรียนจนจบออกมาประกอบอาชีพเป็นครูให้สมกับความตั้งใจของพ่อแม่
เมื่อถามถึงชะตากรรมที่เกิดขึ้น จะมีผลต่อการเรียนที่นางสาววรรณภา ทำคะแนนเรียนได้สูงถึง 3.84 ซึ่งอยู่ในข่ายได้รับเกียรตินิยมจากการเรียนหรือไม่ นางสาววรรณภา ตอบอย่างมั่นใจว่า แม้เหตุการณ์จะทำให้เธอรู้สึกสับสน ทั้งต้องเรียนและความเป็นห่วงแม่ที่มีอาการป่วยด้วยโรคประจำตัว ทั้งโรคความดันสูง เบาหวาน ไข้มัน หอบหืด ตนก็จะต้องตั้งใจเรียนให้ได้คะแนนสูงตามความตั้งใจของผู้เป็นพ่อแม่ ยังไม่รู้สึกท้อ เพราะเป็นความหวังอันสูงสุดของพ่อแม่ ที่ต้องการให้ลูกทั้ง 2 คน คือ นางสาววรรณภา และนายโยธนา พี่ชายอีกคนที่เรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีให้ได้
ด้านนางขันทอง มารดากล่าวทั้งน้ำตาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนเครียดเกรงกระทบกับการเรียนของบุตรสาว เพราะเป็นลูกที่มีความกตัญญู ช่วงปิดภาคเรียนก็จะกลับมาช่วยทำไร่ทำนา เลี้ยงสัตว์ และชีวิตนี้ก็หวังเพียงให้ลูกเรียนจนจบและออกมาสอบเป็นครู ไม่ต้องการให้ลูกมีชีวิตเหมือนตนกับสามี ซึ่งเป็นชาวนา ต้องลำบากมาตลอดชีวิต ขณะนี้ไม่หวังอะไรมาก เพราะไม่ต้องการให้ลูกมากังวลกับความเป็นอยู่ของตนกับสามีจนเสียการเรียน
ถ้ามีบ้านหลังใหม่แทนหลังเก่าที่ถูกไฟไหม้เสียหาย จะทำให้ลูกๆมีความสบายใจยิ่งขึ้น จะได้เรียนได้เต็มที่ ส่วนตนกับสามีก็จะช่วยกันทำนาปลูกข้าว เพื่อหาเงินมาส่งเสียให้ลูกทั้งสองคนได้เรียนจนสำเร็จ ส่วนสัตว์เลี้ยงขณะนี้ ก็ยังขายไม่ได้ เพราะส่วนหนึ่งเป็นสัตว์ที่รับจ้างเลี้ยงจากญาติพี่น้องที่ได้ไปยืมเงินมาใช้ส่งเสียลูกเรียน ส่วนที่เป็นของตนเองก็ยังมีขนาดเล็กขายไม่ได้ราคา จึงต้องทนสู้กับชะตากรรมที่เกิดขึ้นไปก่อน
ด้านนายถนอม ผู้เป็นพ่อก็ยืนยันว่า แม้ตนจะอายุมาก แต่ไม่มีโรคประจำตัว พร้อมที่จะปลูกข้าวนาน้ำฝนหาเงินมาส่งเสียให้ลูกชายและลูกสาวเรียนจนจบ แต่หากให้ไปทำอย่างอื่น และไกลจากบ้านคงไม่ได้ เพราะไม่มีใครดูแลนางขันทองผู้เป็นภรรยาที่ปัจจุบันมีอาการเครียดอย่างมากจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
สำหรับนายเกษม ชูช่วย นายองค์การบริหารส่วนตำบลแก้งเหนือ กล่าวถึงความช่วยเหลือครอบครัวของนางสาววรรณภา หรือวัน ขณะนี้ อบต.ทำได้เพียงช่วยบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น แต่ไม่สามารถสั่งจ่ายเงินซื้อวัสดุมาใช้ก่อสร้างบ้าน เพราะติดขัดที่ระเบียบเป็นการเกิดเพลิงไหม้บ้านเพียงหลังเดียว จึงไม่เข้าข่ายภัยพิบัติตามระเบียบของทางราชการ แต่หากมีผู้ใจบุญบริจาคเป็นวัสดุหรือเงินมาใช้ซื้อวัสดุก่อสร้าง อบต.จะส่งช่างมาร่วมกับชาวบ้านที่เป็นสมาชิกจิตอาสามาสร้างบ้านหลังใหม่ให้ได้ทันที่
“เงินบริจาค จึงเป็นทางเดียวที่จะสามารถช่วยให้ครอบครัว “วิชาพูล” ซึ่งถือเป็นครอบครัวยากจน แต่มีความเป็นอยู่ที่อบอุ่น และที่ผ่านมาทั้งครอบครัว ก็ขยันขันแข็งในการประกอบอาชีพสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้”
จึงอยากเชิญชวนผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือซื้อวัสดุก่อสร้างให้กับครอบครัวนี้ด้วย อบต.ยินดีสนับสนุนกำลังคนใช้ก่อสร้างบ้านให้ทันที
สำหรับผู้ใจบุญต้องการบริจาคช่วยเหลือครอบครัวนี้ ให้มีบ้านใช้พักอาศัยตามอัตภาพสามารถบริจาคได้ที่ธนาคารออมสิน สาขาอำเภอเขมราฐ หมายเลขบัญชี 0201-44399-118 ชื่อบัญชี นางสาววรรณภา วิชาพูล หรือสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 092-175-1329
ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: