นราธิวาส-มท.3 ตรวจคืบหน้าสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมซ้ำซาก เพื่อนำเสนอนายกตู่ช่วง ครม.สัญจร
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 19 ม.ค. 63 นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม หรือ คันกันน้ำ พื้นที่ชุมชนเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นการโครงการการดำเนินงานของกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ให้ บริษัท เมกก้าเทค คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นผู้ออกแบบ และบริษัท ตากใบการโยธา จำกัด เป็นผู้รับจ้างการก่อสร้าง ในวงเงิน 372,202,900 บาท โดยเริ่มสัญญาจ้าง เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 60 ซึ่งกำหนดแล้วเสร็จวันที่ 28 กันยายน 62 ที่ผ่านมา ซึ่งแล้วเสร็จไปประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งขณะนี้ได้ขยายสัญญาจ้างครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 62 ที่ผ่านมา หากการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมแล้วเสร็จ จะทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และย่านเศรษฐกิจการค้าที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซากจะหมดไป เพื่อนำเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 20 มกราคม 2563 ที่เดินทางมาปฏิบัติภารกิจ ณ อาคารรื่นอรุณ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก โดยมีนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ และผู้นำท้องถิ่นคอยให้การต้อนรับ
โดยนางสุชาดา พันธุ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก และนายสุวพงษ์ ภูนาคพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนและพัฒนาตามผังเมือง ได้ร่วมให้การบรรยายสรุปถึงความคืบหน้าการก่อสร้าง รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว พลอยได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าว อาทิ การเปิดตลาดชุมชนแนวชายแดน ที่ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ได้เดินทางไปมาหาสู่ทำการค้าระหว่างกัน ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างงานให้กับประชาชนในพื้นที่ระดับรากหญ้าได้มีงานทำ และมีรายได้เสริมนำไปเลี้ยงครอบครัว
ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่จะมีการประชุม ครม.สัญจร ครั้งที่ 1 ประจำปี 2563 ท่านนายกมีความตั้งใจโดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเอานราธิวาสเป็นจุดศูนย์กลาง โดยเฉพาะพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำท่วมแหล่งชุมชน ซึ่งปีที่แล้วได้รับอนุมัติการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม เป็นระยะทาง 5 ก.ม.วงเงิน 372 ล้านบาท ซึ่งผมเดินทางมาติดตามการก่อสร้างซึ่งต้องใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการก่อสร้างให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้เร็วที่สุดเช่นกัน ซึ่งการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมในครั้งนี้แล้วเสร็จไปประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ และในส่วนของการจัดสรรเงินงบประมาณในปีต่อไป ซึ่งเราต้องดำเนินการก่อสร้างระยะที่ 2 อีกประมาณ 5 ก.ม. วงเงิน 300 ล้านบาท ซึ่งต้องให้นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ทำความเข้าใจกับชาวบ้านและผู้รับเหมา ให้การก่อสร้างเร็วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์ที่พึ่งได้ต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: