นราธิวาส-ผู้ว่าฯนราธิวาส ออกตรวจพื้นที่หลังประกาศเคอร์ฟิว ถนนโล่ง เงียบสนิท ประชาชนให้ความร่วมมือไม่ออกนอกบ้าน ร้านอาหารปิด สกัดแพร่เชื้อร้าย “โควิด-19”
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 10 เมษายน 2563 ที่บริเวณเทศบาลเมืองนราธิวาส นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส น.อ.อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้ บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ นายบุญช่วย หอมยามเย็น ปลัดจังหวัดนราธิวาส น.อ.วรพล สิทธิจิตต์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนราธิวาส (ฝ่ายทหาร) นายยะห์ยา ปะนาฆอ นายอำเภอเมืองนราธิวาส ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ออกตระเวรตรวจพื้นที่ไปตามถนนสายต่าง ๆ ตามประกาศเคอร์ฟิว ร่วมปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในครั้งนี้
ทั้งนี้ในการออกตรวจพื้นที่ เพื่อให้ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหลังจากประกาศเคอร์ฟิวของจังหวัด ซึ่งการออกตรวจเยี่ยมในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการควบคุมการทำงานของคณะทำงานให้เป็นไปอย่างเคร่งครัดและเข้มข้นแล้ว ยังเป็นกำลังใจและเป็นขวัญต่อเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วย โดยนายกรัฐมนตรีประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ห้ามประชาชนออกนอกบ้านและต่างจังหวัดในช่วงเวลา 22.00 – 4.00 ของวันรุ่งขึ้น จากการตรวจร้านสะดวกซื้อ สถานบริการ ร้านอาหาร และบ้านเรือนประชาชน ทุกเส้นทางในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ตลอดจนสวนสาธารณะ รวมทั้งด่านตรวจบ้านบาตู อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นถนนสายหลักรอยต่อนราธิวาส-ปัตตานี ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนให้ความร่วมมือด้วยดี โดยร่วมกันบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อสนองนโยบายรัฐบาล ในการยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดต่อไวรัส COVID-19 ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสด้วย
สำหรับจังหวัดนราธิวาสสามารถจับกุมผู้ฝ่าฝืนได้แล้ว 19 ราย ตักเตือน 3 ราย รวม 22 ราย ดำเนินคดีแล้ว 19 ราย โดยศาลพิพากษาผู้กระทำผิดจำคุก 1 เดือน ปรับ 2,000 บาท โดยจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี ซึ่งบรรยากาศช่วงเวลาประกาศเคอร์ฟิวถนนในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ตลอดจนนอกเมือง เงียบสนิท ประชาชนเข้าบ้านพักผ่อน ไม่ออกมาข้างนอกหรือมั่วสุม ซึ่งก็ได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อส. ยังเป็นประกาศช่วงแรกชาวบ้านอาจจะยังไม่เข้าใจ หากพบประชาชนขับขี่รถหรือเดินอยู่บนถนนก็ให้ใช้การพูดคุยขอร้องให้กลับเข้าบ้าน โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ต่อไปเมื่อขอร้องแล้วยังฝ่าฝืนก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการกำหนดข้อยกเว้นในการปฏิบัติตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 2) ให้ชัดเจนขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน อาศัยอำนาจ ตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 นายกรัฐมนตรีซึ่งออกข้อกำหนดเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: