นราธิวาส-เด็กด้อยโอกาสนราฯมี “รองเท้าคู่ใหม่/ชุดรายอใส่ฉลองแล้ว หลังผู้ใจบุญจับมือ “ทีมงานนราอาสาพาทำดี” สร้างรอยยิ้มถึงชุมชน
หลัง 1 เดือนผ่านพ้นไปกับการปฏิบัติศาสนกิจอันแสนประเสริฐของชาวไทยมุสลิม และวันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายซึ่งเป็นวันที่กำหนดให้ดูดวงจันทร์ ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งเห็นดวงจันทร์ ทางสำนักจุฬาราชมนตรีจะทำการประกาศให้เป็น “วันฮารีรายออีฎิ้ลฟิตรี” ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1441 ซึ่ง “รายอ” อาจจะเป็นวันพรุ่งนี้หรือวันถัดไป หลายครอบครัวส่วนใหญ่ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แบบถ้วนหน้า แต่จำเป็นต้องดิ้นรนเพื่อจับจ่ายหาซื้อเครื่องแต่งกายใหม่ๆให้สมาชิกในบ้านกันอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่…หลายซอกซอยหลายชุมชนของชาวมุสลิม “นราธิวาส” ที่เด็กกำพร้า ไม่มีพ่อแม่ เด็กด้อยโอกาสที่ต่างก็ “ไร้โอกาสไร้เงิน” ที่จะไปสรรหาชุดรายอ ผ้าคลุมหรือฮิญาบ รองเท้า และอื่นๆ ตามใจอยากเหมือนเด็กๆ ที่มีครอบครัวสมบูรณ์
“ทีมงานนราอาสาพาทำดี” โดย “แบเป็ง” หรือ BP Arifin จับมือทีมงาน รวมทั้งกลุ่มองค์กรการกุศล ได้แก่ กลุ่มสื่ออิสลามนรา เครือข่าย อสม.ชุมชนกาแลปาแย เครือข่ายภาคประชาชน สนองความต้องการในใจลึกๆของเด็กๆกำพร้าและด้อยโอกาสเหล่านั้น ที่อาศัยอยู่ใน 8 ชุมชนเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ประกอบด้วยชุมชนกำปงบารู 1,ชุมชนโต๊ะกอดอ,ชุมชนรายอวากะ,ชุมชนชายทะเล,ชุมชนกาแลปาแย,ชุมชนหลังตลาดสด,ชุมชนท่าเรือ 2000 และชุมชนพิทักษ์ลิขิต
“เงินที่ได้ผ่านกลุ่มสื่ออิสลามนรา เป็นงบประมาณของสภาเครือข่ายด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี รวมทั้งการสนับสนุนจากกลุ่มประเทศอาหรับ เช่น โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น นอกจากนี้ทีมงานเรายังได้รับบริจาคจากผู้ใจบุญและผู้ใหญ่ใจดี เพื่อเป้าหมายเดียวกันคือซัพพอร์ตการปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอนตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งสิ้นสุด นั่นคือการฉลองรายอด้วยเช่นกัน” แบเป็ง 1 ในทีมงานนราอาสาพาทำดีบอกเล่าถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของทุกองค์กรในครั้งนี้ หลักๆคือ…รองเท้าคู่ใหม่ จำนวน 546 คู่ และชุดรายอที่ผู้ใหญ่ใจดีนำมาบริจาคอีก 400 ชุด เรียกได้ว่ามีทุกไซค์ ให้เลือกใส่ได้ทุกคนทั้ง 8 ชุมชนกระจายกันไปอย่างต่อเนื่อง ภายใต้คอนเซ็ปต์ของทีมงานอาสาที่ว่า “เชื่อมต่อความดีจากมือผู้ให้ถึงใจผู้รับ” และไม่เพียงแค่นี้ สิ่งที่ทำยังเชื่อมไปถึงผู้รับถึง 2 ต่อด้วยกัน
“พวกเราได้จัดหารองเท้าคู่ใหม่จากร้านค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำจึงเป็น 1 ผู้ให้ 2 คนรับ คือเด็กๆและร้านค้าได้รับความช่วยเหลือโดยตรงเลย และพวกเรากระจายไปยัง 8 ชุมชนนำร่องไปก่อนหลายวันแล้ว เพื่อให้เด็กๆเหล่านี้ได้รู้ว่า ฉันมีรองเท้าใหม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ เหมือนกันนะ มีชุดรายอที่ถึงแม้จะไม่ใหม่สดๆ ซิงๆ แต่พอนำไปซัก ก็ดูเหมือนใหม่และดูดีขึ้นมาทันตาเห็น อยากบอกว่าความช่วยเหลือจะยังไม่สิ้นสุดแค่นี้ จะต่อยอดไปตามอำเภอต่างๆใน จ.นราธิวาสอีกด้วย” แบเป็งย้ำว่า เด็กกำพร้าและด้อยโอกาสทุกที่จะต้องได้
ด.ช.อันฟาน แมเราะ อายุ 12 ปี เด็กกำพร้าชุมชนกาแลปาแย รวมทั้ง ด.ญ.ซูเปียะ มะแอ อายุ 4 ขวบ เด็กด้อยโอกาสและเด็กๆทุกคนที่ได้รับน้ำใจจากผู้ใหญ่ใจดีแบบคาดไม่ถึง ที่ถึงกับอึ้งและน้ำตาคลอเบ้า ปนรอยยิ้มตามประสาเด็กๆ ที่คงนึกไม่ถึงว่า นี่ฉันได้ด้วยหรือ?? นี่คือสิ่งสะท้อนในสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นมุมเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่เสมอในการเป็น “ผู้ให้” ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกคนทุกองค์กรครั้งนี้ ที่สร้างรอยยิ้มและมิตรภาพอันแสนอบอุ่นในวัน “ฮารีรายออีฎิลฟิตรี 1441”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: