นราธิวาส-ผู้ว่านราฯ เผย สถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุยังต้องอยู่ในการควบคุมดูแล กำชับทุกฝ่ายบูรณาการดับไฟป่าไม่ให้ลุกลามเป็นบริเวณกว้าง
วันนี้ (27พ.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศไฟไหม้ป่าบริเวณป่าพรุบาเจาะ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่า ในเขตนิคมสหกรณ์บาเจาะ ต. ลุโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ล่าสุดไฟไหม้ลุกลามพื้นที่ป่าเสียหาย 2,120 ไร่ โดยภาพรวมไฟยังคงคุกรุ่นขยายพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 2 เครื่อง ส่งน้ำเข้าพื้นที่ป่าพรุ เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 20% ในเขตนิคมสหกรณ์บาเจาะซึ่งมีพื้นที่ 5,000 ไร่ ขณะที่ทุกภาคส่วนได้ระดมเครื่องมืออาสาสมัครในพื้นที่และสรรพกำลังในการดับไฟป่า เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามขยายพื้นที่เป็นวงกว้าง โดยตลอดทั้งวันนี้ ทางหมวดบินเฉพาะกิจภาคใต้ ได้นำเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบ Bell-212 ประกอบ bambi bucket โดยการใช้ถุงน้ำดับเพลิง เข้าทำการปฏิบัติภารกิจทิ้งน้ำดับไฟป่าในพื้นที่หัวไฟ จำนวน 5 ครั้ง และยังคงปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง จนกว่าไฟไหม้ป่าพรุจะสงบลง
โดยนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ภาพรวมของป่าพรุในเขตนิคมสหกรณ์บาเจาะ มีพื้นที่กว่า 80,000 ไร่ โดยเป็นป่าไม้ส่วนกลางประมาณ 20 % โดยที่ผ่านมามีการกั้นลำคลองไว้เพื่อไม่ให้มีประชาชนได้เข้าไปบุกรุกในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ที่ผ่านมามีประชาชนลักลอบเข้าไปในป่า เช่น การหาผึ้งหรือตัวต่อ โดยใช้ไฟเป็นเครี่องมือ ซึ่งเหตุนี้จึงก่อให้เกิดเชื้อเพลิงในการเผาไหม้ป่าพรุอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ซึ่งการเกิดไฟไหม้ป่าพรุนั้นสามารถเกิดได้ทั้งแนวราบและแนวดิ่ง และยังสามารถลงลึกไปถึงตะกอนที่ทับถมในพื้นที่พรุ ส่งผลให้การดับไฟพรุค่อนข้างยากพอสมควร ต้องใช้น้ำเป็นปริมาณมาก และจะต้องเติมน้ำลงไปดับไฟป่ากว่า 5,000 ล้านลิตร เพื่อดับไฟป่า ขณะที่ทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกันเติมน้ำพร้อมทั้งผนึกกำลังทุกภาคส่วนในการช่วยกันดับไฟป่า ปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งได้แบ่งชุดปฏิบัติการออกเป็น 5 ชุด โดยทำการขุดแนวกันไฟ เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ของประชาชนในบริเวณใกล้เคียง โดยได้มีการวางแผนการทำงาน พร้อมทั้งระดมหาวิธีการแก้ไขปัญหาดับไฟพรุ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง
นอกจากนี้ ผวจ.นราธิวาสยังกล่าวเพิ่มเติมถึงการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาว่าในระหว่างวันที่ 28 พ.ค.-1 มิ.ย. 2563 นี้ จะมีฝนตกลงมาในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออก รวมถึงในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสด้วย ก็อาจจะสามารถ ชะลอการลุกลามของไฟไหม้ป่าพรุได้มากยิ่งขึ้น เพื่อสงวนพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้ได้มากที่สุด รวมถึงป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามไปในพื้นที่การเกษตรของประชาชนในพื้นที่ด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: