นราธิวาส-ผู้ว่านราฯ ติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะ ล่าสุดลามต่อเนื่องเสียหายประมาณ 2,300 ไร่
จากสถานการณ์ไฟไหม้ป่าบริเวณพื้นที่ป่าในเขตนิคมสหกรณ์บาเจาะ ต. ลุโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังมีไฟคุกรุ่นอยู่ในบางจุด โดยทุกภาคส่วนระดมสรรพกำลังเร่งปฏิบัติการณ์ดับไฟป่าครั้งยิ่งใหญ่นี้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 16 วันแล้ว โดยล่าสุดวันนี้ ( 1 มิ.ย.63 ) เวลา 15.30 น.ที่บริเวณกลางป่าพรุ บ้านกาแร ม.2 ต. ลุโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เดินทางพร้อมด้วยนายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายไพศาล ขุนศรี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายยาลา ใบกาเด็ม นายอำเภอยี่งอ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะ ซึ่งในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดไฟไหม้ลุกลาม แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะระดมสรรพกำลังเข้าดับไฟไปแล้ว แต่ยังเกิดการปะทุขึ้นอีกระลอกหนึ่ง โดยเฉพาะค่ำคืนของวันที่ 31 พ.ค.63 ที่ผ่านมา
ทางด้านนายเอกรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยถึงสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะว่า ในวันนี้ได้มีกระแสลมพัดหมุนไปหมุนมา ซึ่งหลังจากที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเดินทางลงพื้นที่มามอบแนวทางในการปฏิบัติงานให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทางจังหวัดก็ได้สนองนโยบาย โดยการเพิ่มรถดับเพลิง เครื่องส่งสูบน้ำระยะไกลจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพิ่มเครื่องหาบหาม เพิ่มเครื่องสูบน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมกำลังเข้าร่วมปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ แต่ด้วยสภาพของพื้นที่และไฟที่ไหม้ลงในแนวดิ่งชั้นใต้ดิน ทำให้วันนี้เกิดการลุกลามขยายวงกว้างเพิ่มอีก 100 ไร่จากเดิม ล่าสุดรวมพื้นที่ป่าพรุที่ได้รับความเสียหายประมาณ 2,300 ไร่ โดยทุกภาคส่วนก็ยังดำเนินการอย่างเต็มที่ ในการแก้ไขปัญหาตั้งแต่เช้ายันค่ำของทุกวัน ซึ่งกระทรวงเกษตรฯสนับสนุนเครื่องบินมาบินทำฝนเทียม เพื่อให้เกิดฝนตกในบริเวณดังกล่าว ซึ่งในช่วงนี้ถึงแม้จะมีฝนแต่เป็นบริเวณป่าเขา ทำให้การดับไฟป่าครั้งนี้ต้องใช้ความพยายามอีกหลายเท่า ต้องมีการเติมน้ำเข้ามาโดยกรมชลประทานเพื่อสูบเข้าไปดับไฟ “โดยขณะนี้ในบางพื้นที่ เช่น เขตชุมชนและเขตเทศบาลเมืองจะมีฝุ่นควันและหมอกควัน เนื่องจากสภาพของลมที่เปลี่ยนทิศทางทำให้มีผลกระทบในเรื่องของหมอกควัน ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนราธิวาสสวมใส่หน้ากากอนามัยและพยายามอย่าออกนอกบ้าน ทั้งนี้ได้ให้สาธารณสุขจังหวัดจัดระบบในการดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชนลงไปสู่ระดับชุมชนในการแนะนำในเรื่องการปฏิบัติตัวในช่วงนี้ ขณะเดียวกันขอให้เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว รวมถึงประชาชนที่ไม่มีกิจจำเป็นอยู่ในบ้านหรือในที่พัก เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่นละอองและมลพิษต่างๆ” ผวจ.นราธิวาสกล่าว
จากนั้นนายเอกรัฐ ผวจ.นราธิวาสพร้อมด้วย นายยาลา ใบกาเด็ม นายอำเภอยี่งอ นายยะห์ยา ปะนาฆอ นายอำเภอเมือง ว่าที่ร้อยตรีจิรัสย์ ศิริวัลลภ นายอำเภอบาเจาะ รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ เช่น โครงการชลประทาน จ.นราธิวาส นิคมสหกรณ์บาเจาะ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เข้าร่วมการประชุมเพื่อหารือและหามาตรการในการแก้ไขปัญหาไฟป่าครั้งนี้ ซึ่งหลังการประชุมแล้วเสร็จ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้พูดคุยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมมอบอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภคให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ดับไฟป่าในพื้นที่อีกด้วย
