2 สามีภรรยาฉกทองมูลค่ากว่า 7 หมื่นบาทจากห้างทองที่บาเจาะ จนท.รุดตรวจจากกล้องวงจรปิด
เมื่อเวลา 12.15 น.วันที่ 8 มิ.ย.2563 พ.ต.ต.ธรรมนูญ แคล้วทนง ร้อยเวรสอบสวน สภ.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุสองคนร้ายเป็นชายและหญิงฉกทองจากห้างทองลิฎวาน ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 131/4 ม.1 ถ.เพชรเกษมสาย 42 เขตเทศบาลต้นไทร ม.1 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จึงได้พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรีจิรัสย์ ศิริวัลลภ นายอำเภอบาเจาะ พ.ต.ต.ลัทถวิทย์ แคยิหวา สารวัตรใหญ่ สภ.ปะลุกาสาเมาะ นำกำลังพร้อมด้วย พ.ต.อ.มานิตย์ ปานทอง หัวหน้าพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ ผู้กำกับการสืบสวนภูธร จ.นราธิวาส และ ร.อ.ภาคภูมิ อรุณศรี ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานนาวิกโยธินกองทัพเรือ รุดเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยได้กันพื้นที่ไว้เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่
พบภายในห้างทองลิฏวาน ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 131/4 ม.1 เขตเทศบาลต้นไทร ซึ่งมีนายอับดุลฮาฟิส โต๊ะกูมิ อายุ 56 ปี เป็นเจ้าของห้างทองดังกล่าว พร้อมพนักงานขายซึ่งเป็นหญิงมุสลิมอีก 3 คนกำลังอยู่ในอาการตกใจ ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบบริเวณภายในและภายนอกร้านเกรงว่าจะเป็นแผนลวงของคนร้ายที่วางกับดักล่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจ เหมือนเช่นเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผ่านๆ มา
และจากการสอบถาม น.ส.สากีเราะ ลอมา อายุ 25 ปี พนักงานขายของห้างทองดังกล่าวเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุในวันนี้ ตนเองกำลังขายทองอยู่กับพนักงานอีก 2 คน โดยเจ้าของร้านเดินวนเวียนอยู่ข้างหลัง ในขณะที่มีลูกค้าประมาณ 6 คนกำลังเลือกทองอยู่ภายในร้าน ได้มีหญิงชายมุสลิมคู่หนึ่ง ขี่รถ จยย.2 คันมาจอดเลยหน้าร้านไปนิดนึง จากนั้นทั้งคู่ได้เดินเข้ามาภายในร้าน โดยฝ่ายชายยืนอยู่หน้าร้าน ส่วนผู้หญิงได้เดินเข้ามาขอดูสร้อยคอทองคำรูปพรรณตามปรกติ เหมือนจะซื้อ เค้าลองสวมดูด้วย ก่อนที่จะถามราคา ตนเองก็บอกราคาไปว่าเส้นละ 1 บาท ราคา 26,000 โดยหญิงสาวคนนี้เปิดดูในกระเป๋าเงินแล้วบอกว่าเงินไม่พอ ต้องไปกดเงินก่อน ตนเองจึงแจ้งว่าทางร้านมีบริการโอนผ่านแอพ หญิงสาวบอกว่าตัวเองไม่มีโทรศัพท์ แล้วได้หันไปถามผู้ชายที่มาด้วยว่าจะไปด้วยกันมั้ย แต่ผู้ชายบอกจะรออยู่ที่ร้าน จากนั้นผู้หญิงได้เดินออกไปขี่รถ จยย.อีกคันหลบหนีไปก่อน
“พอผู้หญิงออกไปหนูก็เก็บทองไว้ในเคาน์เตอร์ แต่ผู้ชายคนที่มาด้วยมาขอดูทองรวม 3 เส้น ด้วยท่าทีเหมือนมือสั่นๆ ทำท่าเหมือนเลือกลาย ก่อนจะรีบวิ่งไปสตาร์ทรถ จยย.ซึ่งหนูรีบวิ่งออกไปดูด้วยความตกใจแต่จำได้ว่าเป็นฮอนด้าเวฟไอ 110 ซีซี.สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รวมทองที่ได้ก็ 3 เส้นๆละ 1 บาทรวม 78,000 บาท”
ทางด้าน พ.ต.ต.ลัทถวิชย์ แคยิหวา สารวัตรใหญ่ สภ.ปะลุกาสาเมาะ เปิดเผยว่า ในขณะนี้ตนเองได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ภายในร้านและภายนอกร้าน รวมทั้งบริเวณริมถนน ซึ่งมีประมาณ 5 ตัว เพื่อที่จะตรวจสอบดูว่าคนร้ายทั้งคู่นี้ซึ่งเป็นสามีภรรยากันนั้น เป็นใครมาจากไหน เพื่อที่จะได้ติดตามมาดำเนินคดีในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ต่อไป
