นราธิวาส-ด่านชายแดนโกลกตั้งการ์ดเข้ม หวั่นลักลอบข้ามแดน หลังทหารอียิปต์-เด็กซูดานป่วนโควิด
สำหรับบรรยากาศตามแนวชายแดนสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในช่วงวันนี้ จากการตระเวนสำรวจพบเจ้าหน้าที่คุมเข้มด่านพรมแดนทุกช่องทางโดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ เพื่อเป็นการป้องกันและเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของคนไทยในมาเลเซีย รวมทั้งแรงงานต่างด้าว เนื่องจากบุคคลเหล่านี้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ประกอบกับช่วงนี้เกิดสถานการณ์โควิด-19 ที่จังหวัดระยองหลังพบทหารอียิปต์ที่เข้ามาปฏิบัติภารกิจติดเชื้อ 1 ราย อีกทั้งยังพบว่าเด็กหญิงชาวซูดานวัย 9 ขวบที่เดินทางมากับคณะทูตติดเชื้ออีกด้วย จนเป็นกระแสร้อนแรงในโลกโซเชียลถึงการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่มี 2 มาตรฐานในการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศ
ทั้งนี้ช่องทางธรรมชาติที่เป็นจุดสุ่มเสี่ยงตลอดแนวตะเข็บชายแดนที่ อ.สุไหงโก-ลกมีทั้งหมด 6 ช่องทางประกอบด้วย ท่าก่อไผ่ ท่าโรงเลื่อย ท่าประปา ท่าโต๊ะอาแว ท่าเจ๊ะอูเซ็ง และท่าชมพู่ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริเวณตะเข็บชายแดน ที่อาจเป็นช่องโหว่ให้มีผู้ลักลอบเข้ามาโดยผิดกฎหมายและไม่ผ่านกระบวนการคัดกรองและกักตัวในสถานที่กักตัว Local Quarantine ที่รัฐจัดไว้ให้ เจ้าหน้าที่จึงต้องวางมาตรการเข้ม ห้ามไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติโดยเด็ดขาด ซึ่งกองกำลังชายแดนโดยกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 3 ได้คุมเข้มตลอด 24 ชั่วโมง กรณีมีผู้ฝ่าฝืนลักลอบข้ามมา เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด
นอกจากนี้ที่บริเวณลานด่านศุลกากรสุไหงโก-ลกได้จัดช่องทางให้คนไทยในมาเลเซียเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยทุกคนต้องผ่านเครื่องเทอร์โมสแกน ตรวจวัดอุณหภูมิในร่างกาย โดยมีเจ้าหน้าที่ปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเฝ้าตรวจหน้าจอมอนิเตอร์ตลอดเวลา เพื่อป้องกันและสกัดกั้นผู้เดินทางเข้าประเทศ และเพื่อเป็นการสนองนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั่วประเทศปฏิบัติการณ์เชิงรุกคุมเข้มเฝ้าระวัง สกัดกั้น กวาดล้างปราบปรามแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอีกด้วย
