นราธิวาส-กองกำลังนราปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมครั้งใหญ่ สนองนโยบาย ผบ.ตร.
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 6 ส.ค.2563 ที่ลานหน้ากองบังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมครั้งใหญ่ โดยมีระดับ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ระดับผกก.สภ.13 อำเภอ กองกำลัง 3 ฝ่ายรวมทั้งสิ้น 180 นายเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน
ทั้งนี้สืบเนื่องจากในห้วงที่ผ่านมา แนวโน้มการก่ออาชญากรรมคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ เช่น ปล้นทรัพย์ ชิงลักทรัพย์ ลักทรัพย์ ได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ทำห้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนเป็นส่วนใหญ่ โดยลักษณะการก่ออาชญากรรม ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายของบ้านเมือง เป็นเหตุให้กระทบต่อความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีนโยบายให้ตำรวจภูธรจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากกรมในพื้นที้รับผิดชอบอย่างเข้มข้น ระหว่างวันที่ 6-12 สิงหาคม 2563 โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ อาวุธปืน อาวุธสงคราม ยาเสพติด คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์สิน คดีเกี่ยวกับชีวิต ร่างกายและเพศ รวมทั้งหมายจับคดีค้างเก่า
โดยให้ตำรวจภูธรจังหวัดทั่วประเทศ บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง จัดให้มีการปล่อยแถวระดมกำลังในวันนี้ พร้อมกันทั่วประเทศเพื่อให้หน่วยกำลังดำเนินการบังคับใช้กฎหมายในการป้องกัน ควบคุม ปัญหาอาชญากรรม และระงับยับยั้งเหตุการณ์ความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ด้าน พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส กล่าวว่า จากข่าวสารที่ปรากฎทางสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ หรือทางโลกโซเซียล จะเห็นได้ว่าห้วงที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ จะมีข่าวที่นำเสนอเกี่ยวกับการก่อเหตุอาชญากรรม เช่น ฆ่ากันตาย ปล้นร้านทอง ชิงทรัพย์ หรือขัดแย้งผลประโชน์ที่ได้กระทำในสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด ซึ่งอาชญากรรมที่เกิดขึ้น คนร้ายจะใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุเป็นหลัก และคนร้ายก่อเหตุในพื้นที่ขุมชน หรือกระทำต่อหน้าสาธารณชน โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย แต่ละคดีที่เกิดขึ้น มีการสูญเสียหรือมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย บางคดีถึงแม้จะเป็นเรื่องการขัดแย้งเรื่องส่วนตัว ประชาชนเมื่อได้ติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้น หรือประสบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง จะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของตัวเองหรือบุคคลในครอบครัว และรู้สึกหวาดกลัวกับการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน
ซึ่งการที่ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสได้บูรณาการกำลังกับทุกภาคส่วนในวันนี้ นับเป็นเรื่องที่ดี ที่พวกเราทุกคนจะได้ช่วยกันดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน โดยขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ และสร้างความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสต่อไป
