นราธิวาส-ชาวพุทธนราฯแห่ทำบุญรับตายายสืบสานประเพณีงานบุญสารทเดือนสิบชั่วลูกชั่วหลาน
สำหรับบรรยากาศการทำบุญสารทเดือนสิบในพื้นที่ จ.นราธิวาสในช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ ปรากฎว่ามีพุทธศาสนิกชนทยอยเดินทางไปตามวัดต่างๆเป็นจำนวนมาก โดยที่วัดประชาภิรมย์ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส ชาวพุทธทยอยนำเครื่องคาวหวานดอกไม้ธูปเทียนและขนมเดือนสิบเข้าวัดเพื่อประกอบพิธี เพื่อเป็นการรับตายายและบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว
ซึ่งประเพณีทำบุญสารทเดือนสิบของคนใต้นั้นถือได้ว่าเป็นงานบุญสำคัญ ที่จะได้แสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ด้วยการนำอาหารไปถวายพร้อมอุทิศส่วนกุศลไปให้ โดยหลายจังหวัดทางภาคใต้มีการจัดงานขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เป็นประจำทุกปี สำหรับคนภาคใต้ทุกจังหวัดถือว่าช่วงเวลานี้เป็นงานประเพณีที่สำคัญที่สุด ที่จะต้องเดินทางกลับบ้าน เพื่อร่วมงานบุญประเพณีและอุทิศส่วนกุศลไปหาญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว
อย่างไรก็ตามหลักความเชื่อทางพุทธศาสนา เชื่อว่าในปลายเดือนสิบของทุกปี บรรพบุรุษ ปู่ ย่า ตา ยาย หรือญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว รวมทั้งคนที่มีบาปทั้งหลายที่เรียกว่า ‘เปรต’ จะถูกปล่อยตัวจากนรก เพื่อให้ขึ้นมายังโลกมนุษย์พบปะญาติพี่น้อง บุตรหลานในวันแรม 1 ค่ำเดือนสิบ และจะเรียกตัวเปรตทั้งหมดกลับนรกภูมิในวันแรม 15 ค่ำเดือนสิบ ช่วงดังกล่าวผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ จะพยายามหาอาหารไปทำบุญเซ่นไหว้ให้กับวิญญาณที่ขึ้นมาจากนรก การทำบุญต้อนรับเปรต ในวันแรม 1 ค่ำ ซึ่งเป็นวันแรกที่เปรตขึ้นมาจากนรก จนถึงวันแรม 15 ค่ำ ที่เปรตทั้งหมดจะลากลับนรกโดยพิธีจะเริ่มขึ้นในตอนเช้าชาวบ้านจะนำอาหารคาวหวานไปถวายพระสงฆ์ จากนั้นก็จะลงมาเตรียมอาหารไว้สำหรับเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษ โดยจะนำอาหารต่างๆใส่ลงในกรวยใบตอง ประกอบด้วย ข้าวและกับข้าวอีก 2-3 อย่าง ขนมลา ขนมพอง ดอกไม้ธูปเทียนและน้ำ โดยเฉพาะขนมพองซึ่งถือว่าเบา เปรตสามารถนำกลับไปกินในนรกได้ ส่วนขนมลา เป็นเส้นใย เปรตที่ปากเล็กเท่ารูเข็มก็สามารถใส่เข้าปากได้
หลังจากที่เตรียมเครื่องเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษแล้ว ก็จะนำไปวางไว้ในบริเวณที่เรียกว่า “ร้านเปรต” หรือ “หลาเปรต” เมื่อนำอาหารมาไว้แล้ว ก็จะจุดธูปเทียนและอธิษฐานบอกกล่าวถึงญาติพี่น้องของตนเองที่ล่วงลับไปแล้ว ให้มารับเอาเครื่องเซ่นไหว้นี้ โดยบริเวณร้านเปรตจะมีด้ายสายสิญจน์ที่พระสงฆ์จับ เพื่อบังสกุลนำปลายไปผูกติดกับร้านเปรต เมื่อพระสงฆ์สวดบังสกุลเสร็จ ก็จะถึงช่วงที่เรียกว่า “ชิงเปรต” คือมีทั้งคนเฒ่า คนหนุ่มคนสาวรวมไปถึงเด็กๆ จะตรงเข้าไปแย่งขนมและสิ่งของที่ตั้งเปรตกันอย่างตั้งใจ เพราะเชื่อว่า หากใครได้กินของที่เหลือจากการเซ่นไหว้บรรพบุรุษแล้ว จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต อีกทั้งยังได้กุศลแรง ส่งผลให้การดำรงชีวิตเจริญรุ่งเรืองตลอดไปอีกด้วย
