นราธิวาส-เรือประมงนราฯหวั่น “โนอึล” พ่นพิษ จอดเทียบท่ากว่า 500 ลำ ด้าน ผอ.อุตุฯวอน ปชช.อย่าตื่นตระหนก แค่กระทบทางอ้อม
จากกรณีกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศแจ้งเตือนถึงพายุโซนร้อน “โนอึล” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 300 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 15.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 110.9 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือ ด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ระหว่างเมืองเว้และเมืองดานัง และเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงวันที่ 18-20 กันยายน 2563 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากและมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนบน และทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร อ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 17-20 กันยายน 2563
โดยบรรยากาศในพื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ปรากฏว่าท้องฟ้ามีเมฆฝนปกคลุมรวมทั้งมีฝนตกค่อนข้างหนักในหลายพื้นที่ สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนที่ติดตามข่าวสารของพายุโซนร้อนดังกล่าวนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวประมงในพื้นที่ อ.เมืองและ อ.ตากใบ ที่ต้องนำเรือออกหาปลาและอาหารทะเลเพื่อนำมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคในท้องตลาด ซึ่งชาวประมงทุกรายกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เมื่อพายุเข้าแบบนี้ ต้องเพิ่มความระมัดระวังและเร่งรีบหลังจากหาปลาได้แล้ว ต้องรีบนำเรือกลับเข้าฝั่ง แต่หากฝนตกหนัก จำเป็นต้องงดออกเรือเป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยก่อน ซึ่งยอมรับว่าได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ด้วยเวลาที่จำกัดและปริมาณของปลาที่ได้น้อย ทำให้ราคาต้องขยับขึ้นจากเดิมเล็กน้อย
ทางด้านนายมะณี อุทรักษ์ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า พายุโซนร้อน “โนอึล ” ที่จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางบริเวณเมืองดานังในวันที่ 18 ก.ย.63 จะส่งผลกระทบทางอ้อมกับ จ.นราธิวาสเท่านั้น โดยจะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น และส่งผลให้ จ.นราธิวาสมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีลมกรรโชกแรง บริเวณ อ.รือเสาะ อ.ศรีสาคร อ.ระแงะ อ.จะแนะ อ.สุคิริน และ อ.แว้ง
ส่วนปริมาณฝนสะสมในพื้นที่ 13 อำเภอของจ.นราธิวาสขณะนี้ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติจึงขอแจ้งไปยังประชาชนว่ายังไม่ต้องกังวลกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันหรือน้ำป่าไหลหลาก แต่สำหรับประชาชนในพื้นที่ลาดเชิงเขาให้เพิ่มความระมัดระวังเนื่องจากดินที่อุ้มน้ำอาจทำให้มีการสไลด์ลงมาได้
“ประชาชนใน จ.นราธิวาสไม่ต้องตื่นตระหนกกับการเกิดพายุโซนร้อนโนอึล แต่หากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปในจังหวัดทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมถึงภาคใต้ตอนบน ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบ ขอให้ติดตามรายงานพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดเพื่อวางแผนการเดินทางอย่างปลอดภัยในห้วงระหว่างวันที่ 18-20 ก.ย.63 นี้”ล่าสุดสถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาสรายงานปริมาณน้ำฝนรายอำเภอของ จ.นราธิวาส ประจำวันที่ 18 ก.ย.63 ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น.ที่มีปริมาณค่อนข้างชุก ได้แก่ อ.บาเจาะ 19.0 มม.อ.เมือง 14.2 มม. อ.ศรีสาคร 12.6 มม. อ.ระแงะ 7.8 มม.
