นราธิวาส-ม.นราฯเปิดเวทีดีเบตเชิญ 3 ผู้สมัครนายก อบจ.นราธิวาสมานำเสนอวิสัยทัศน์ของตนเองในการแก้ปัญหาให้กับชาวจังหวัดนราธิวาส
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ลานพิกุล มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ วิทยาเขตโคกเขือ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิาส ด้วยมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ได้เปิดเวทีการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) นราธิวาส เพื่อเป็นข้อมูลนำไปประกอบกับการตัดสินใจของนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ รวมทั้งประชาชน เพื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจในวันไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 20 ธันวาคม 2563 ที่จะถึงนี้
โดยผู้สมัครนายก อบจ.นราธิวาสทั้ง 3 คน ประกอบด้วย หมายเลข 1 นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน หมายเลข 2 นายรำรี มามะ และหมายเลข 3 นายคอยรูซามัน มะ เข้าร่วมเวทีดีเบตครบทั้ง 3 คน ซึ่งมี ผศ.ดร.จงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลับนราธิวาสราชนครินทร์ ประชาชน คณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร ตลอดจนนักศึกษาจำนวนกว่า 3,000 คน ให้ความสนใจมาร่วมรับฟัง ทั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยนราธิวาสฯต้องการให้นักศึกษาซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสตัดสินใจในการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งท้องถิ่นครั้งสำคัญ ซึ่งการเปิดเวทีในครั้งนี้มีผู้สมัคร ส.อบจ. ลูกทีมของแต่ละทีมรวมทั้งกองเชียร์ของผู้สมัครแต่ละคนเดินทางมาให้กำลังใจอย่างคับคั่ง
โดยเวทีดีเบตกำหนดให้ผู้สมัครแต่ละคนแสดงวิสัยทัศน์ไม่เกิน 30 นาที ในช่วงแรก รวมทั้งให้ผู้ร่วมรับฟังได้สอมถามในประเด็นต่างๆ จำนวน 3 คำถามต่อ 1 ผู้สมัครนายกฯ ก่อนจะกล่าวสรุปจบในช่วงท้าย 10 นาที ซึ่งแต่ละคนได้แสดงวิสัยทัศน์ของตนเองที่สำคัญๆ อาทิ การศึกษา เศรษฐกิจ การเมือง สังคมและคุณภาพชีวิต ทั้งนี้เพื่อโน้มน้าวให้ผู้รับฟังที่มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ตัดสินใจเข้าคูหา เลือกเข้าไปเป็นตัวแทนในการพัฒนา จ.นราธิวาส
ต่อไป
เมื่อประเมินจากศึกชิงเก้าอี้นายก อบจ.ในครั้งนี้ เรียกว่าเป็นศึก “เก่าปะทะใหม่” โดยผู้ครองเก้าอี้นายก อบจ.อยู่ก่อน 4 สมัย รวม 16 ปี คือนายกฯกูเซ็ง ยาวอหะซัน ในวัย 78 ปีซึ่งถือเป็น “รุ่นเก๋า” ของการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่น อีกทั้งยังมีลูกชายเป็น ส.ส.ถึง 2 คนคือ นายกูเฮง ยาวอหะซันและนายวัชระ ยาวอหะซัน โดยนายวัชระผู้พี่สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ส่วนนายกูเฮงผู้น้อง สังกัดพรรคประชาชาติ
ขณะที่เบอร์ 3 “หน้าใหม่” ที่ขึ้นสังเวียนเป็นผู้ท้าชิงคือนายคอยรูซามัน มะ นักธุรกิจวัย 45 ปี ลงสมัครในนาม “คณะก้าวหน้า” มีประสบการณ์การทำงานเป็นคณะกรรมการกองทุนนวัตกรรมวิสาหกิจชุมชนพึ่งตนเอง ในสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน หรือ พอช. เป็นนายกสมาคมนักธุรกิจมุสลิมนราธิวาส เป็นคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนราธิวาส 2 สมัย อดีตเลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองตากใบ จังหวัดนราธิวาส และปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาผู้ตรวจการภาคประชาชนด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่มองว่าเป็น “กระดูกคนละเบอร์” ที่ไม่น่าประมาทกับฐานเสียงคนรุ่นใหม่
แต่ที่น่าจับตามองคือศึกชิงนายก อบจ.นราธิวาส ครั้งนี้ผู้ท้าชิงคนสำคัญที่คร่ำหวอดสนามการเมืองมาถึง 4 สมัยคือนายรำรี มามะ วัย 70 ปี ผู้สมัครหมายเลข 2 ที่จัดว่าเป็นคู่มวยที่สูสีกับ “โต๊ะกู” เพราะนายรำรีเคยเป็น ส.ส.นราธิวาส จากพรรคประชาธิปัตย์ และเคยไปช่วยงานการเมืองกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ สำหรับศึกชิงเก้าอี้นายก อบจ.นราธิวาสครั้งนี้ที่ถือว่าน่าจับตามองไม่น้อยกว่าจังหวัดอื่นๆ เนื่องจากเป็นพื้นที่ของสมรภูมิรบกว่า 16 ปีที่ทุกคนรอลุ้นผู้นำท้องถิ่นจะเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไฟใต้ให้มอดลงในที่สุด
ข่าวน่าสนใจ:
- อบจ.ลำปางยกระดับคุณภาพมาตรฐานหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ PCU/NPCU
- คึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย-ต่างชาติ แห่เที่ยวจับจ่ายหาของกินคาวหวาน-อาหารทะเลในงาน ‘หาดแม่รำพึง หร่อยริมเล’ ครั้งที่ 2 แน่นงาน
- มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย
- สยบข่าวลือ สจ.ธรรมชาติ หนีซุกเขมร หลังถูกทนายดังแฉเอี่ยวรีดเว็บพนัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: