นราธิวาส-พ่อเมืองเดือดสั่งหาตัวนายหน้านำพาต่างด้าวเข้าประเทศหวั่นแพร่เชื้อโควิด
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 16 ธ.ค.63 นายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก พ.ต.ต.สุเมธ กนกเหมพันธ์ สว.ตม.นราธิวาส ร.ต.อ.อับดุลฮากิม เจ๊ะเมาะ รอง ผบ.ร้อย ตชด.447 เจ้าหน้าที่ทหารชุดป้องกันชายแดนที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมเดินทางไปยังบ้านร้างเลขที่ 53/4 บ้านลูโบะฆง ม.3 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หลังได้รับแจ้งจากนายณรงค์ อาแวสือแม ผู้ใหญ่บ้านปาเสมัส มีกลุ่มแรงงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม จำนวน 13 คน โดยแยกเป็นผู้ชาย 7 คน ผู้หญิง 6 คน แอบมาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งคาดว่าได้แอบลักลอบเข้าแดนมาจากประเทศมาเลเซีย ที่สุ่มเสี่ยงในการนำพาเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 มาแพร่ระบาดในประเทศไทย โดยนายณรงค์ อาแวสือแม ผู้ใหญ่บ้าน ได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาเฝ้าระวังเกรงกลุ่มบุคคลต่างด้าวจะหลบหนี
ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบ้านร้างหลังดังกล่าว พบว่ากลุ่มแรงงานต่างด้าวได้มาแอบพักอาศัยเป็นเวลา 2 วัน โดยมีกระเป๋าสัมภาระที่ติดตัวมาจำนวนหนึ่ง รวมทั้งอาหารวางกระจัดกระจายอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวลงมารวมกันที่บริเวณหน้าบ้านพักหลังดังกล่าว พร้อมทั้งได้สอบถามเบื้องต้น ทราบว่าแรงงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนามกลุ่มนี้ ได้หลุดรอดจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา บริเวณช่องทางธรรมชาติท่าทราย ม.7 ต.ปาเสมัส ซึ่งครั้งนั้นเพื่อนจำนวน 7 คน ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ และเมื่อเจ้าหน้าที่กลับจึงได้พากันเดินออกมาจากที่ซ่อนซึ่งเป็นป่ารกทึบ และพากันเดินมาพบบ้านร้างจึงได้แอบอาศัยอยู่ และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวเอาไว้ได้ในที่สุด
ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ไปตรวจสอบโรคและเช็คประวัติ พร้อมทั้งได้มีการกักตัวดูอาการ 14 วัน ก่อนที่จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายรวมทั้งพลัดดันกลับประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ทราบว่า จากประวัติของกลุ่มแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้ ได้เดินทางไปทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีนายหน้าประเทศมาเลเซียแอบลักลอบนำพาข้ามมายังฝั่งไทย เพื่อที่จะเดินทางกลับประเทศโดยมีนายหน้าฝั่งไทยจะเป็นคนนำพาอีกทอดหนึ่ง
ด้านนายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส กล่าวว่า จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า เป็นคนสัญชาติเวียดนามซึ่งเดินทางมาจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งตนจะหาตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องการหลบหนีของคนต่างด้าวเหล่านี้ ที่นำพาเข้ามาในประเทศไทยที่จะเรียกว่าขบวนการค้ามนุษย์ก็ได้ ซึ่งเชื่อว่าต้องมีคนไทยหรือจะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ดี ฝ่ายไหนก็ตามหรือจะเป็นคนธรรมดาทั่วไป เรากำลังติดตามสืบสวนสอบสวนเพื่อจะดำเนินคดีคนกลุ่มนี้เช่นกัน ซึ่งมาตรการเหล่านี้เราจะทำอย่างจริงจังและมีพยานหลักฐานถึงใคร ผมในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดผมจะดำเนินคดีในสภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด19
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: