นราธิวาส-ผบ.ฉก.นราฯ ลั่น!เตรียมให้รางวัลนำจับ 1 หมื่นบาท ผู้ชี้เบาะแสคนนำต่างด้าวเข้าไทย
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 14 ม.ค.2564 ที่กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เป็นประธานเปิดศูนย์บังคับการทางยุทธวิธีในการเพิ่มความเข้มงวดต่อการควบคุมพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนฝั่ง จ.นราธิวาส โดยได้มีการประชุมเพื่อวางมาตรการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวและแรงงานไทย ที่อาจฉวยโอกาสลักลอบหนีข้ามแดนจากประเทศมาเลเซียเข้าสู่ประเทศไทย ตามช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ตากใบ อ.แว้งและ อ.สุไหงโก-ลก ระยะทางประมาณกว่า 100 กิโลเมตร ซึ่งอาจจะนำเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มาแพร่ระบาดในประเทศไทย หลังจากที่ประเทศมาเลเซียได้ออกมาตรการกฎเหล็กในการปิดประเทศจนถึงวันที่ 1 ส.ค.2564 อีกทั้งรัฐบาลมาเลเซียยังได้ล็อคดาวน์ทั้งประเทศอีกด้วย ซึ่งการประชุมครั้งนี้มี พ.อ.อายุพันธ์ กรรณสูต ผบ.ชค.ปชด. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.ท.สุเมธ กนกเหมพันธ์ สว.ตม.จว.นราธิวาส พ.ท.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ พล.ต.ไพศาล ผบ.พล.ร.15/ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้สั่งการให้เพิ่มกำลังสนับสนุนจาก อส.อ.สุไหงโก-ลก สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและชุดควบคุมป้องกันชายแดนในการส่งกำลังเข้าไปอุดช่องโหว่ตามจุดล่อแหลมต่างๆ ให้เพียงพอในการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองของกลุ่มแรงงานต่างด้าว ที่อาจจะมาสมทบกับแรงงานต่างด้าวที่แอบลักลอบอยู่ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ที่ได้มีการประกาศให้เข้ารายงานตัวกับแรงงาน จ.นราธิวาส เพื่อให้สามารถอยู่ในประเทศไทยได้ ตามมติคณะรัฐมนตรีจนถึงปี พ.ศ.2566 โดยในที่ประชุมได้มีการหยิบยกประเด็นสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจับแรงงานต่างด้าวในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดเป็นรอบที่ 2 ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวที่แอบลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติจากรัฐกลันตันประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ถึงปัจจุบัน จำนวน 93 ครั้ง รวมแรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุมจำนวน 525 คน อีกทั้งยังมีแนวโน้มต่อการเตรียมลักลอบเข้าไทยตามช่องทางธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากมาเลเซียประกาศล็อคดาวน์ เนื่องจากแรงงานต่างด้าวเมื่อลักลอบเข้ามาแล้ว หลังจากจับกุมดำเนินคดีก่อนจะถูกผลักดันกลับประเทศ
นอกจากนี้ยังได้มีการขอสนับสนุนลวดหีบเพลงที่ต้องใช้ปิดช่องทางธรรมชาติ บริเวณชุมชนท่าทราย ม.7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ที่กลุ่มขบวนการลักลอบนำพาบุคคลต่างด้าวจะใช้ช่องทางธรรมชาติจุดนี้เป็นประจำ หลังจากที่ช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ อ.ตากใบถูกเจ้าหน้าที่เข้มงวดอย่างหนัก จนกลุ่มขบวนการดังกล่าวเปลี่ยนแผนไปใช้ช่องทางธรรมชาติชุมชนท่าทรายแทน ซึ่งการแก้ปัญหาด้วยการนำลวดหีบเพลงมาตรึงที่บริเวณดังกล่าวจะเป็นการสกัดกั้นปัญหาการลักลอบข้ามแดนได้อีกช่องทางหนึ่ง
สำหรับชุมชนท่าทราย เป็นช่องทางธรรมชาติที่กลุ่มขบวนการแอบลักลอบนำแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวข้ามมาในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และถือเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยทางอำเภอสุไหงโก-ลกได้แจ้งให้ทาง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.สุไหงโก-ลกไปทำการสุ่มตรวจผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งได้มีการกักตัวชาวบ้านจำนวน 14 รายที่อาศัยอยู่ในชุมชนดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างเฝ้าสังเกตอาการ
ทางด้าน พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.พล.ร.15/ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้เตรียมตั้งรางวัลนำจับจำนวน 10,000 บาทให้กับผู้ชี้เบาะแสในการจับกุมขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวและแรงงานไทย ซึ่งหากกลุ่มขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศถูกจับกุมได้ ปัญหาการลักลอบข้ามแดนจากฝั่งมาเลเซียจะหมดไป ส่งผลให้อัตราความเสี่ยงต่อการนำเชื้อโควิด-19 จากประเทศมาเลเซียเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทยจะลดน้อยลงในที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: