นราธิวาส-ผบ.ตร.นำความห่วงใยจาก “นายกตู่” ให้ ตร.ชุดสืบสวนศรีสาคร ก่อนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุบึ้มวานนี้
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ตึกประชารักษ์ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางพร้อมด้วย พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เดินทางเข้าเยี่ยมบำรุงขวัญและให้กำลังใจแก่ ด.ต.ยุทธกร เรืองเพ็ง อายุ 44 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด ซึ่งขณะนี้ ด.ต.ยุทธกรกำลังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โดยถูกสะเก็ดระเบิดกระดูกเบ้าตาข้างซ้ายแตก เบื้องต้นรู้สึกตัวดี โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้เป็นตัวแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบเงินบำรุงขวัญและนำความห่วงใยของนายกรัฐมนตรีถึง ด.ต.ยุทธกร เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุความไม่สงบในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้สืบเนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีสาคร ได้ขับและนั่งรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว 4 ประตู ทะเบียน 7 กอ 8364 กทม. นำเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดกองกำกับการตำรวจภูธร จ.ยะลา และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส เดินทางเข้าไปตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ แขวนป้ายผ้า พ่นสีสเปรย์ไล่เจ้าหน้าที่ทหารและเผายางรถยนต์ เหตุเกิดในช่วงเวลา 04.00 น. วันที่ 31 ม.ค.2564 เมื่อถึงบริเวณบ้านไอร์กาแซ ม.6 ต.ศรีสาคร ได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้จุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปฝังไว้ใต้ผิวถนน จนเกิดระเบิดขึ้นในขณะที่รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีสาคร แล่นผ่านทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 5 นาย ส่วนรถยนต์ได้รับความเสียหาย
โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สอบถามอาการของ ด.ต.ยุทธกร เรืองเพ็ง ด้วยความห่วงใย และกล่าวว่า ขอให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว รวมทั้งได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น เพื่อเป็นการปลอบขวัญ ให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร.พร้อมคณะ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาข่าวเพื่อหาเบาะแสหรือข้อมูลของคนร้ายที่ก่อเหตุ อย่างอุกอาจในครั้งนี้ จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดยะลาเพื่อร่วมประชุมสรุปสถานการณ์ และชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงานต่อไป
