นราธิวาส-จนท.ปิดเทือกเขาตะเว-เมาะแต เร่งล่า “อับดุลเลาะ บูละ” แกนนำบึ้มก่อนยิงซ้ำ ชป.จรยุทธ์นราฯ ดับ 2
ความคืบหน้าจากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายลอบขว้างระเบิดก่อนเกิดการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ ชป.จรยุทธ์ บนเทือกเขาเมาะแต ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับเทือกเขาตะเว ในพื้นที่หลังหมู่บ้านแฮ ม.4 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เหตุเกิดเมื่อเวลา 06.40 น.ของวันนี้ (25 ก.พ.2564) ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานสังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4513 กรมทหารพรานที่ 45 พลีชีพ 2 นาย อาการสาหัส 1 นาย โดยหลังเกิดเหตุ พ.อ.ชนาธิป ทองเชี่ยว ผบ.ฉก.กรม ทพ.45 พ.ต.อ.ปิยภัทร ทองพันเลิศกุล ผกก.สภ.ระแงะ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยเจ้าหน้าที่ร่วมเดินเท้าขึ้นเชิงเขาไปตามป่าสวนยางพาราประมาณ 50 เมตร พบทหารพรานได้ตั้งแคมป์กระจายกำลังกันกางเต็นท์นอนอยู่ จำนวน 10 หลัง โดยเต็นท์หลังที่ 3 มีร่องรอยถูกคนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ซึ่งประกอบใส่ไว้ในแป๊บเหล็กทรงกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว ยาว 3 นิ้ว หนักประมาณ 0.5 ก.ก. ขว้างใส่เข้าไปในเต็นท์ แล้วใช้อาวุธปืนเอ็ม.16 และลูกซองยิงถล่มซ้ำ ซึ่งเต็นท์อีก 9 หลัง มีร่องรอยถูกกระสุนปืนของคนร้ายได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันเคลียร์พื้นที่โดยรอบ พบระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ที่คนร้ายขว้างเข้าใส่เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่กำลังพักอยู่ในเต็นท์ ซึ่งระเบิดไม่ทำงานอีก 4 ลูก เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บกู้ด้วยการใช้อาวุธปืนยิงทำลาย พร้อมปลอกกระสุนปืนเอ็ม.16 และลูกซองของคนร้าย ที่ตกเกลื่อนทั่วบริเวณอีก จำนวน 30 ปลอก และจากการตรวจสอบอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่พบว่า หลังก่อนเหตุคนร้ายได้ขโมยอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ทหารพรานไป จำนวน 3 กระบอก เป็นอาวุธปืนลูกซอง 1 กระบอก และอาวุธปืนอา.ก้า. 2 กระบอก ส่วนผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น เพื่อทหารได้ลำเลียงส่งรักษาที่โรงพยาบาลระแงะไปก่อนหน้าแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือ 1. อส.ทพ.บาฮารี มะรือสะ และ 2 อส.ทพ.ศรราม ราชรักษ์ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บคือ อส.ทพ.ทิวากร บุญแสน เมื่อแพทย์โรงพยาบาลระแงะ ได้ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
จากการสอบสวนกำลังพบของ ชป.จรยุทธ์ดังกล่าวทราบว่า ในช่วงเย็นของวันที่ 24 ก.พ.2564 ที่ผ่านมา พ.อ.ชนาธิป ทองเชี่ยว ผบ.ฉก.ทพ.45 ได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยทหารพรานที่ 4503 , 4505 , 4506 และ 4513 จำนวน 4 ชุดปฏิบัติการณ์ รวม 16 นาย ออกแผนปฏิบัติการ 463 ในการควบคุมพื้นที่ป่าเขาตามนโยบายของหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เพื่อจำกัดเสรีฝ่ายตรงข้าม เป็นการสนองนโยบายของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โดยภายหลังจากชุดปฏิบัติการทั้ง 16 นาย ได้เดินเท้าเปิดแผนบนเทือกเขาตะเวและเทือกเขาเมาะแต จากนั้นได้ไปกางเต็นท์ยังจุดเกิดเหตุ เพื่อเตรียมเปิดแผนปฏิบัติการต่อเนื่อง แต่กลุ่มคนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวจากแนวร่วมในพื้นที่ จึงได้ลอบนำกำลังพร้อมอาวุธปืนและระเบิดขว้างครบมือ เข้าทำการโอบล้อมเจ้าหน้าที่ทหารพราน ก่อนจะใช้ระเบิดขว้างพร้อมอาวุธปืนเอ็ม.16 และลูกซองยิงถล่มใส่เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่อาศัยอยู่ภายในเต็นท์แต่ละหลัง จนเกิดการยิงปะทะกันเป็นระลอกๆนานกว่า 15 นาที เมื่อเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันเคลียร์พื้นที่ พบว่า อส.ทพ.บาฮารี ถูกยิงเสียชีวิต ส่วน อส.ทพ.ศรราม และ อส.ทพ.ทิวากร ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส โดย อส.ทพ.ศรราม ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนร้ายคาดว่าน่าจะได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบรอยเลือดหยดเป็นทางตามกิ่งไม้ซึ่งเป็นเส้นทางหลบหนีที่มุงหน้าขึ้นสู่เทือกเขา โดยคนร้ายยังได้หยิบอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ทหารพรานไป จำนวน 3 กระบอก เป็นอาวุธปืนลูกซอง 1 กระบอก และอาวุธปืนอา.ก้า.อีก 2 กระบอก
ข่าวน่าสนใจ:
หลังเกิดเหตุ พ.อ.ชนาธิป ทองเชี่ยว ผบ.ฉก.ทพ.45 ได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ทหารพรานทั้ง 16 กองร้อยในพื้นที่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระแงะและเขตรอยต่อ ให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนสายหลักและสายรองในหมู่บ้าน เพื่อตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะทุกชนิดที่สัญจรไปมา เกรงคนร้ายจะแฝงตัวปะปนกับชาวบ้าน แอบหลบหนีไปเข้ารักษาตัวตามสถานพยาบาลรวมทั้งบ้านพักของสมาชิกแนวร่วมในพื้นที่ รวมทั้งได้จัดชุดปฏิบัติการร่วมจำนวน 2 ชป.โอบล้อมเทือกเขาตะเวและเทือกเขาเมาะแต เพื่อกดดันไล่ล่ากลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ ซึ่งแหล่งข่าวความมั่นคงในพื้นที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของนายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำมีหมายจับ ป.วิอาญาคดีความมั่นคงหลายคดีที่รวมตัวกับสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติการโหดในครั้งนี้ โดยผลการปฏิบัติยังไม่พบเบาะแสของคนร้ายแต่อย่างใด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: