นราธิวาส-มาเลเซียจับจริง! 42 คนไทยที่เตรียมลักลอบเดินทางกลับไทยหลังพ้นเส้นตายผลักดันบุคคลต่างสัญชาติออกจากประเทศ 21 เมษายน 2564
นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งว่า ทางการประเทศมาเลเซียได้จับกุมคนไทย จำนวน 42 คนขณะเตรียมลักลอบเดินทางกลับประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ภายหลังพ้นเส้นตายที่อนุโลมให้บุคคลที่พำนักในประเทศมาเลเซียเกินกำหนดจากสถานการณ์โควิด-19 และผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายเดินทางออกจากประเทศมาเลเซียภายในวันที่ 21 เมษายน 2564
จากการตรวจสอบล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียได้นำคนไทยที่เป็นผู้ชาย จำนวน 32 คน ไปสอบสวนที่สถานีตำรวจรันเตาปันยัง รัฐกลันตัน ส่วนผู้หญิงอีกจำนวน 10 คนนำไปสอบสวนที่สถานีตำรวจปาเสมัส รัฐกลันตัน โดยผู้หญิง 1 คน มีอาการตกเลือดจึงต้องนำส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาและเมื่อพ้นขีดอันตรายจึงจะส่งกลับมาที่ สถานีตำรวจปาเสมัส เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารูได้เข้าเยี่ยมคนไทยทั้งหมดแล้ว
สำหรับคนไทย จำนวน 42 คนที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ ได้เตรียมลักลอบเดินทางกลับประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายในช่วงค่ำของวันที่ 21 เมษายน 2564 หลังด่านพรมแดนรันเตาปันยังปิดทำการ โดยติดต่อนายหน้าทางมาเลเซียซึ่งเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 6,000 บาทต่อคน เดินทางมาจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ และรับคนไทยตามรายทางมาจนถึงรันเตาปันยัง โดยมีการถือเอกสารปลอมที่ได้รับจากนายหน้าด้วย เมื่อมาถึงบริเวณหน้าร้านค้าปลอดภาษี รันเตาปันยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียได้แสดงตัวและจับกุมคนไทยทั้งหมดตามมาตรการจับกุมผู้ที่พำนักในมาเลเซียเกินกำหนด และผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยทั้งหมดจะเข้ากระบวนการสืบสวนสอบสวนอย่างน้อย 14 วัน และอาจถูกตัดสินจำคุกอย่างน้อย 3 เดือน
ทางด้านนายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวว่า ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย จึงขอเน้นย้ำให้คนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางที่ถูกกฎหมาย ห้ามหลงเชื่อผู้ที่แอบอ้างจะเข้าช่วยเหลือ รวมทั้งห้ามปลอมแปลงเอกสารทางราชการ เพราะจะมีโทษในคดีอาญาอย่างหนัก
สำหรับบุคคลใดที่มีเอกสารการเดินทางครบถ้วนโปรดลงทะเบียนทางเว็ปไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ ทางระบบออนไลน์ได้ที่ https://dcaregistration.mfa.go.th
แต่หากเอกสารการเดินทางหมดอายุ หรือ ไม่เคยมีเอกสารการเดินทางใดๆเลย ขอให้ติดต่อศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงการต่างประเทศ ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง หรือ ติดต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งนายอำเภอสุไหงโก-ลกได้มอบหมายให้นายกิริยา อาแซ เจ้าหน้าที่ปกครอง ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลกเป็นผู้รับผิดชอบประสานงานคนไทยในประเทศมาเลเซียที่มีความประสงค์จะกลับเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก โดยสามารถติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-7677008 ทั้งนี้ศูนย์ดำรงธรรมทุกแห่งพร้อมให้ความช่วยเหลือคนไทยเพื่อให้สามารถเดินทางกลับประเทศไทยอย่างถูกกฎหมายโดยสวัสดิภาพ ไม่ต้องเสี่ยงถูกจับกุมดำเนินคดีในประเทศมาเลเซีย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: