นราธิวาส-จ.นราธิวาสปล่อยแถวคุมเข้มเคอร์ฟิว ป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID – 19 ด้านผู้ว่าฯนราธิวาสเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจตรากวดขันไม่ให้ประชาชนออกมานอกเคหสถา
สำหรับบรรยากาศในช่วงค่ำคืนของวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ของจังหวัดนราธิวาสทั้งในตัวเมืองและพื้นที่รอบนอกเป็นไปอย่างเงียบเหงา แทบไม่มีผู้คนออกมาสัญจรในยามค่ำคืน ภายหลังทางจังหวัดนราธิวาสได้สนองนโยบายของรัฐบาลในการประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิว โดยห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานหรือที่พัก ในช่วงเวลา 21.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ตาม พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27) เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID – 19 โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 – 25 กรกฎาคม 2564
ทางด้านนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย นาวาเอก วิชชา พรหมคีรี รอง ผอ.รมน.จังหวัดนราธิวาส (ฝ่ายทหาร) ปลัดจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าหน่วยกำลัง หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมในพิธี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้มอบแนวทางในการปฏิบัติ โดยเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และคำสั่งจังหวัดนราธิวาสที่เกี่ยวข้อง ในการบูรณาการกำลังพลปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมายให้เกิดประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้ประชาชนเดินทางออกนอกเคหสถานโดยไม่จำเป็น ลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ COVID – 19 พร้อมทั้งขอให้ปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็งโดยปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มข้น และดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่
ต่อจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสพร้อมคณะ ได้ร่วมกันปล่อยแถวการบังคับใช้กฎหมายตาม พรก.ดังกล่าว โดยเป็นการบูรณาการของกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ จำนวน 50 นาย นำอุปกรณ์ เครื่องมือ และยานพาหนะต่างๆ ออกตรวจตรากวดขันและตั้งด่านตรวจ ไม่ให้มีประชาชนออกมานอกสถานที่ตามข้อกำหนดดังกล่าว พร้อมทั้งบังคับใช้กฎหมายให้ครอบคลุมทั้ง 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของประชาชนอันจะนำไปสู่ความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID – 19 หากพบว่ามีผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย
หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสพร้อมคณะได้เดินทางไปยังจุดตรวจบริเวณหน้าเขื่อนท่าพระยาสาย เพื่อให้แนวทางปฏิบัติแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งมอบเครื่องบริโภค และชุดป้องกันโรค COVID – 19 แก่เจ้าหน้าที่ และได้เดินทางต่อไปยังด่านบาตู ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ร่วมต้อนรับ
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้เน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ในเส้นทางรอยต่อระหว่างจังหวัดนราธิวาสและจังหวัดปัตตานี ให้ชุดเคลื่อนที่เร็วทำหน้าที่ลาดตระเวนเฝ้าระวังควบคุมไม่ให้ประชาชนออกมานอกสถานที่ในช่วงเวลาที่กำหนด เว้นแต่มีความจำเป็นหรือเป็นผู้ปฏิบัติงานเฉพาะด้าน ซึ่งมีความจำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ตามข้อกำหนดหรือคำสั่งต่างๆของทางราชการ ที่ต้องมีใบรับรองการทำงาน ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสยังได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องสลับสับเปลี่ยนการปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค COVID – 19
