นราธิวาส-ร้านอาหารทยอยเปิดหลังคลายล็อกวันแรกในกลุ่มจังหวัดสีแดงเข้ม ขณะที่ผู้ประกอบการหวังลืมตาอ้าปาก
วันนี้ (1 กันยายน 2564) ภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ผ่อนคลายมาตรการตามระดับพื้นที่ปรับมาตรการในพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดโดยให้ร้านอาหารสามารถนั่งทานในร้านได้ถึง 20.00 น. แต่ให้มีการจำกัดจำนวนของที่นั่งเพื่อลดความแออัด
โดยในพื้นที่ จ.นราธิวาส บรรยากาศการเปิดร้านอาหาร ตามมาตรการคลายล็อก 29 จังหวัดสีแดงเข้ม ของ ศบค.ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้ ( 1 ก.ย.64) ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาสยังคงเงียบเหงา เนื่องจากยังคงมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งประชาชนยังรู้สึกหวาดกลัวและไม่มั่นใจในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่
สำหรับการผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันโควิด-19 กรณีร้านอาหารและเครื่องดื่ม ตามคำสั่ง จ.นราธิวาส สามารถนั่งรับประทานอาหารภายในร้าน โดยร้านที่เปิดเครื่องปรับอากาศ สามารถรับลูกค้าได้ร้อยละ 50 ส่วนร้านค้าทั่วไปหรือร้านที่เปิดโล่งสามารถรับลูกค้าได้ร้อยละ 75 ของจำนวนที่นั่งปกติ และสามารถนั่งรับประทานภายในร้านได้ไม่เกิน 20.00 น.และห้ามจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดอีกด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ด้านนางสาว เอมิกา จิตต์ปราณี เจ้าของร้านพราวด์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่มีการประกาศปิดร้านค่อนข้างที่จะกะทันหันในรอบที่แล้ว ทำให้ทางร้านเกิดความเสียหายเนื่องจากได้กักตุนสินค้าไว้ เพราะใช้วัตถุดิบที่ราคาค่อนข้างสูง ซึ่งตอนนั้นทางร้านก็มีการกักตุนสินค้าตามปกติ ทำให้วัตถุดิบมีเยอะ ทำให้ต้องหาวิธีระบายสินค้าให้ญาติพี่น้องและเพื่อนให้ช่วยกันซื้อ ซึ่งหลังจากที่มีการประกาศให้สามารถเปิดร้านได้ตามปกติแล้วถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี แต่ก็ยังมีเคอร์ฟิวอยู่ ซึ่งทางเราก็สามารถค้าขายเปิดร้านได้ ถึงแม้อาจจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็ยังดีกว่าล็อกดาวน์ร้านอาหาร ถือว่าเป็นการช่วยร้านอาหารได้เป็นอย่างดี แต่ว่ารอบนี้ทางร้านก็กักตุนวัตถุดิบไม่มาก เพราะไม่แน่ใจว่าอนาคตจะมีการประกาศล็อกดาวน์ร้านอาหารอีกหรือไม่ ซึ่งถ้ารัฐบาลประกาศล่วงหน้าสัก 1 สัปดาห์จะดีกว่า แต่ถ้ามีการประกาศกะทันหันเหมือนรอบที่แล้วก็จะส่งผลกระทบต่อร้านค้า ส่วนในเรื่องของวัคซีนนั้นทางร้านเองก็ให้พนักงานฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้วและทางร้านก็มีมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัดด้วยเช่นกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: