นราธิวาส-9 วันที่ “ฮูแตยือลอ” บาเจาะ! ยังปิดล้อม ผกร.ที่หลงเหลือต่อเนื่อง ด้าน กอ.รมน.ภาค 4 สน.วอน ปชช.อย่าหลงเชื่อข่าวลือ
จากกรณีเจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่หลบซ่อนอยู่ในพื้นที่บ้านฮูแตยือลอ ตำบลบาเระใต้ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส โดยได้ปฏิบัติการณ์มาตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ นับเป็นเวลา 9 วันแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (6 ต.ค.2564) พันเอกเกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยความคืบหน้าว่า หลังปิดล้อมพื้นที่ปฏิบัติการมากว่า 9 วัน ที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่หลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ป่าเสม็ด บริเวณ ม.6 บ้านฮูแตยือลอ ตำบลบาเระใต้ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส มาตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2564 จนถึง ณ ขณะนี้ วันที่ 6 ตุลาคม 2564 รวมเวลา 9 วัน ซึ่งผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ยิงต่อสู้ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นายคือ อส.ทพ.วัฎจักร พรหมนุ้ย รอง ผบ.ชป.ร้อย ทพ. 4603 และ ร้อยโทกฤษณะ เพ็ชรจำรัส สังกัด ร.151 พัน.1 ช่วยราชการ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 มีผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 4 ราย ประกอบด้วย 1 .นายบารูวัน กือจิ 2. นายอัสซัน สามะ 3. นายอับดุลเลาะ อูแล และ 4. นายอัฏฮา ยูกะ โดยผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ญาติได้นำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ ในสื่อสังคมออนไลน์ ได้มีความพยายามบิดเบือนเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตว่า ยังคงมีผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิตอีก 2 ราย โดยเจ้าหน้าที่บ่ายเบี่ยงไม่ให้ญาติเข้าไปในพื้นที่เพื่อนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงขอชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบโดยทั่วกันว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เสียชีวิตจากการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่นับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.64 จนถึงตอนนี้ ยืนยันพบศพมีเพียง 4 รายเท่านั้น และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการโดยยึดมั่นหลักการของศาสนาเป็นสำคัญ ไม่มีการอำพรางศพตามที่มีการบิดเบือนสร้างความเข้าใจผิด แต่ด้วยสภาพพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นป่าพรุเสม็ดสลับกับคูน้ำ ทำให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความยากลำบาก อีกทั้งยังคงเป็นพื้นที่อันตราย เนื่องจากยังคงตรวจพบความเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุรุนแรงอยู่ภายในอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ปฏิบัติการณ์ยืดเยื้อ ใช้เวลาล่วงมาจนถึงวันที่ 9 ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครื่องมือทำการถากถาง เคลียร์พื้นที่ ซึ่งต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย”
นอกจากนี้พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนาย ใช้ความอดทนในการปฏิบัติ หากพบความเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุรุนแรง ให้เน้นการเจรจาและเชิญผู้นำศาสนาผู้นำท้องที่เข้ามาช่วยเกลี้ยกล่อม ให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงออกมามอบตัวเพื่อต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงขอให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจในมาตรการการควบคุมพื้นที่และบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ ที่ได้ดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยความระมัดระวัง ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก และคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญ และขออย่าหลงเชื่อข่าวลือข่าวลวงที่ผู้ไม่หวังดีหวังใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่นก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ และหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้โดยตรงที่เบอร์สายด่วน 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
