นราธิวาส-โจรใต้ซุ่มยิงตำรวจ ก่อนปะทะเดือดที่รือเสาะ
เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2564 เวลา 14.00 น.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งจาก ฉก.ทพ.46 ว่าได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงเข้าใส่รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน ศชต.เบื้องต้นไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บ โดยรถยนต์ของตำรวจถูกกระสุนที่บริเวณกระจกด้านหลัง เหตุเกิดในพื้นที่ ม.3 ต.สุวารี อ.รือเสาะ
และในจังหวะที่เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อย ทพ.4614 ฉก.ทพ.46 จำนวน 10 นาย ซึ่งเป็นชุดพิทักษ์พื้นที่กำลังเดินลาดตระเวนในป่าสวนยางพาราใกล้จุดเกิดเหตุ เมื่อได้ยินเสียงปืนและเห็นกลุ่มคนร้ายจำนวนหนึ่งขับขี่รถ จยย.เข้ามาในป่าสวนยางพาราอย่างลุกลี้ลุกลน จึงได้ตั้งด่านลอยก่อนเรียกให้จอดเพื่อขอตรวจ แต่กลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหนี ก่อนจะเกิดการยิงปะทะกันระหว่าง 2 ฝ่ายประมาณ 10 นาที
สิ้นเสียงปืน เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวคนร้ายได้ 1 ราย ส่วนที่เหลือหลบหนีการจับกุมไปได้ อย่างไรก็ตามทางด้าน พันเอกทรงเดช สุกนุ้ย ผบ.ฉก.ทพ.46 ได้สั่งการให้จัดชุดไล่ล่ากลุ่มที่หลบหนีอย่างต่อเนื่อง และจากการตรวจสอบจากบัตรประชาชนของผู้ที่ถูกควบคุมตัวได้ทราบชื่อคือนายอามีร ดอแต อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 96/2 บ.กาโดะ ม.4 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ ซึ่งเป็นน้องชายของนายฟาอีซัน ดอแต อายุ 32 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 96/1 บ.กะโดะ ม.4 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ โดยนายฟาอีซันเคยถูกเชิญตัวเพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามเมื่อวันที่ 7–13 เม.ย.2561 ซึ่งผลการซักถาม นายฟาอีซันให้การยอมรับว่าเมื่อปี 2551 ได้ถูกชักชวนให้เข้าร่วมกระบวนการและรับฟังประวัติศาสตร์รัฐปัตตานี ,เหตุการณ์ตากใบ ,เหตุการณ์กรือเซะ จากนายอับดุลรอพะ ดอเลาะและยอมรับว่าเคยพักอาศัยอยู่บนเขากาโดะ โดยทำหน้าที่คอยส่งเสบียงให้กับกลุ่ม ผกร.ในพื้นที่ แต่นายฟาอีซัน พี่ชายของนายอามีรที่ถูกควบคุมตัวได้วันนี้ ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางประกอบด้วย อาวุธปืนจำนวน 4 กระบอกคือ M 4 จำนวน 1 กระบอก,M 16 A 1 ตัดสั้นจำนวน 1 กระบอกและ AK 47 พับฐานจำนวน 2 กระบอก รวมทั้งแม็กกาซีนจำนวน 9 แม็กและกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง
ส่วนนายอามีร ซึ่งถูกควบคุมตัวไปยังฐานปฏิบัติการ กรมทหารพรานที่ 46 ภายในวัดสวนธรรม อ.รือเสาะ และจากการสอบปากคำนายอามีรในเบื้องต้น ให้การว่า หลังจากที่ตนได้รับโทรศัพท์จากกลุ่มคนร้ายซึ่งมีประมาณ 7 คนที่ได้ลงมือก่อเหตุดักซุ่มยิงรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ศชต.แล้วเสร็จ ก่อนหลบหนีได้โทรศัพท์มาหาตน เพื่อเดินทางมารับอาวุธปืนสงครามทั้ง 4 กระบอกเพื่อจะนำไปซุกซ่อนเตรียมใช้ก่อเหตุครั้งต่อไป แต่ระหว่างที่ตนขี่รถ จยย.นำอาวุธปืนทั้ง 4 กระบอกไปซุกซ่อนนั้น ได้พบกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน จึงได้จอดรถ จยย.แล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า แต่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานไล่ติดตามจนถูกจับเอาไว้ได้ ซึ่งคำให้การของนายอามีร ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทราบกลุ่มและจำนวนคนร้ายที่ก่อเหตุแล้วในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆ เนื่องจากต้องนำไปขยายผลถึงเครือข่าย เพื่อที่จะทำการสืบสวนสอบสวนในการจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
