นราธิวาส-มอบหนังสือพระราชทานสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เล่ม 42
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 17 ธันวาคม 2564 ที่ห้องประชุมสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดนราธิวาส อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีมอบหนังสือพระราชทานสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เล่ม 42 ให้แก่โรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จำนวน 71 โรงเรียน เพื่อให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสอ่าน ศึกษาหาความรู้ สามารถสร้างประโยชน์ให้กับตนเอง ครอบครัวตลอดจนสังคมและประเทศชาติ
ในการนี้ได้มีการเข้ารับมอบหนังสือพระราชทาน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่ม 42 เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างพร้อมเพรียงกัน สำหรับโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นหนังสือสารานุกรมที่พิมพ์ขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ.2516 จนถึงปัจจุบันรวม 42 เล่ม เป็นสารานุกรมภาษาไทยจัดทำขึ้นเป็นรูปเล่ม โดยมีเนื้อหาบางส่วนเผยแพร่ในระบบออนไลน์ เป็นสารานุกรมไทยแบบเป็นชุด เน้นความรู้ที่เกิดขึ้นและใช้อยู่ในประเทศไทย จัดทำโดยคนไทย เพื่อให้คนไทยทุกเพศทุกวัยมีโอกาสได้อ่าน ซึ่งแต่ละเล่มรวบรวมเนื้อเรื่องจากหลากหลายสาขาวิชา เนื้อหาของเรื่องต่าง ๆ เรียบเรียงให้เหมาะสมกับ 3 ระดับความรู้ ให้แก่ เด็กรุ่นเล็ก เด็กรุ่นกลาง และเด็กรุ่นใหญ่ รวมทั้งผู้ใหญ่ที่สนใจทั่วไป แต่ละเรื่องเริ่มต้นด้วยเนื้อหาของระดับเด็กรุ่นเล็ก ตามด้วยเนื้อหาของรุ่นกลางและรุ่นใหญ่ตามลำดับ เนื้อหาในแต่ละระดับพิมพ์ด้วยตัวอักษรขนาดต่างกัน
ในส่วนของจังหวัดนราธิวาส ได้รับพระราชทานหนังสือพระราชทานสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน จำนวน 71 เล่ม เพื่อมอบให้แก่โรงเรียนในจังหวัดนราธิวาสรวมทั้งสิ้น 71 โรงเรียน และได้จัดนิทรรศการเพื่อร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสร้างการตื่นรู้เกี่ยวกับพระราชดำริ พระราชดำรัส ความเป็นมาตลอดจนคุณค่าของสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมสร้างเสริมนิสัยรักการอ่านสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เพื่อให้เยาวชนไทยตลอดจนประชาชนทั่วไปได้นำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเองและส่วนรวมต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: