นราธิวาส-เลขาฯ ศอ.บต.รุดติดตามสถานการณ์ หลังเกษตรกรนราฯ กระทบหนักจากโรคใบร่วงยางพารา
วันนี้ (5 มกราคม 2565) พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ลงพื้นที่กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา บ้านป่าไผ่ ตำบลตันหยงลิมอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อประชุมทำความเข้าใจกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคใบร่วงในยางพาราในพื้นที่ ก่อนที่จะลงพื้นที่ไปสำรวจแปลงเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ที่กำลังเกิดโรคระบาดในชุมชน
จากนั้น เลขาธิการ ศอ.บต.พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่ไปยัง หมู่ที่ 8 บ้านโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เพื่อสำรวจแปลงเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราของประชาชน โดยได้สำรวจต้นยางพารา รวมถึงกระบวนการทำงานของเครื่องวัดความชื้นในดิน และอุณหภูมิในอากาศ ที่เกษตรกรได้มาติดตั้งเพื่อทำการหาความสมดุลที่เหมาะสมในการใส่ปุ๋ยแก่ต้นยาง ถือเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยเหมาะแก่การช่วยบำรุงต้นยางให้เหมาะสม และสามารถรู้ถึงวิวัฒนาการการเปลี่ยนแปลงของต้นยางพาราได้อีกด้วย
ต่อมา เลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมคณะฯ เดินทางไปยัง การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดนราธิวาส เพื่อร่วมประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราในพื้นที่ ทั้งนี้จังหวัดนราธิวาสเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ซึ่งการหารือมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมวางกรอบแนวทางและแผนงาน รวมทั้งโครงการในการแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ด้านมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดฯ การฟื้นฟูต้นยางพารา รวมถึงการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงปัญหาของโรคฯ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี
ทางด้าน พลเรือตรี สมเกียรติ เลขาธิการ ศอ บต. เปิดเผยว่า สำหรับช่วงที่ผ่านมา ศอ.บต.ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคใบร่วงยางพารา ทั้งนี้ได้ร่วมกับสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยยาง เพื่อศึกษาวิจัยหาเชื้อสาเหตุ รวมถึงวิธีการป้องกันในอนาคต ซึ่งจากการลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาโรคระบาดใบร่วงยางพารา จังหวัดนราธิวาสได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ดำเนินการวิจัยหาเชื้อสาเหตุและการป้องกันกำจัดโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา ทำให้เกษตรกรเจอปัญหาคือการกรีดยางแล้วน้ำยางไม่ค่อยออก ถ้ากรีดยางถี่ๆ ยางจะยืนต้นตายในที่สุด ดังนั้นปัญหาการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ทุกส่วนราชการมีความกังวลถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้ร่วมบูรณาการเร่งให้เกิดรูปธรรมให้มากที่สุด นอกจากนี้จะต้องเร่งสร้างความแรงให้กับต้นยางพารา เพื่อให้ลดความรุนแรงของโรคและป้องกันการแพร่กระจายของโรคโดยการฉีด Trichoderma ในใบที่หล่นใต้โคนต้นยาง พร้อมทั้งปรับสภาพพื้นที่ให้มีแสงแดดส่องได้ทั่วถึง ตลอดจนใช้เชื้อจุลินทรีย์หรือชีวภัณฑ์ฉีดให้ครบทุกๆ 3 เดือน พร้อมปรับลดความชื้นในดิน
ข่าวน่าสนใจ:
- กองบิน 5 แถลงข่าวการจัดงาน “สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484” รำลึกถึงความกล้าหาญ และความสามัคคีของวีรชนผู้กล้า ในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา
- ร้อยเอ็ด...กบห.โหวดพิฆาตเข้าพบรักษาการพ่อเมืองร้อยเอ็ด ร่วมต้อนรับรัฐมนตรีประจำสำนักฯ เปิดงานเดิน-วิ่งการกุศล ณ อ่างธวัชชัย 30 พ.ย. 67
- ตรัง ชื่นชมชุมชนท่องเที่ยวร่วมใจเก็บขยะบนเกาะเหลาเหลียง
- กทม. ร่วม"ฟูกูโอกะ" เปิดงาน "Fukuoka Fair" ฉลอง 18 ปีเมืองพี่เมืองน้อง
ขณะที่นายสุรชัย บุญวรรโณ ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทยเขตภาคใต้ตอนล่าง กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคใบร่วงยางพาราที่เกิดจากเชื้อราที่พบการระบาดใน 14 จังหวัดภาคใต้ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยจังหวัดที่มีพื้นที่การระบาดมากที่สุด 4 อันดับแรก เป็นเขตภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ นราธิวาส ยะลา สงขลา และปัตตานี ซึ่งขณะนี้ (ข้อมูลจากการยางแห่งประเทศไทยสาขาจังหวัดนราธิวาส ณ วันที่ 4 มกราคม 2565) พบการระบาดและสร้างความเสียหายมากที่สุดในจังหวัดนราธิวาส เนื้อที่เสียหายรวม 753,698.20 ไร่ ซึ่งการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดนราธิวาส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้ดำเนินการแก้ไขพร้อมเข้าช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางอย่างเร่งด่วน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: