นราธิวาส-อดีตเจ้าอาวาสเผยปมทำร้ายแม่บังเกิดเกล้า ฝังใจจากแม่ทำร้ายร่างกายตั้งแต่เด็กๆ
ความคืบหน้าจากกรณีพระสุทัศน์ (นาย สุทัศน์ นิลสุวรรณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกโก บ้านโคกโก ม.4 ตำบลลำภู อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางละเอียด นิลสุวรรณ อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นแม่บังเกิดเกล้าได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังได้ทำร้ายร่างกายชาวบ้านคือนางเหงียม ชาวนา อายุ 72 ปี ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เหตุเกิดภายในวัดโคกโก ซึ่งจากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2565) ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส จึงได้นิมนต์พระสุทัศน์ (นายสุทัศน์ นิลสุวรรณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกโก มาสอบถามสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ รวมทั้งเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมถึงคดีดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทางด้านพระสุทัศน์ (นายสุทัศน์ นิลสุวรรณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกโก เผยว่า จากเหตุการณ์ที่ตนเองได้ทำลงไปนั้นเกิดจากสาเหตุที่เมื่อตอนเป็นเด็กจนกระทั่งโต แม่ชอบทำให้โกรธ ก่อนทำร้ายด้วยวิธีการต่างๆ หลังจากทุบท้ายทอยจนทำให้สมองผิดปกติ หลังจากนั้นแม่ก็จะทำสีหน้าเยาะเย้ย บางทีตัวแม่นั้นชอบเอามีดมาใกล้ๆแล้วตนเองก็ชอบไปจับมีด พอจับมีดแล้วก็ต้องโดนมีดบาด ถ้าเป็นแม่ทั่วไปก็ต้องมาโอ๋ลูกถ้าลูกโดนมีดบาด แต่สำหรับแม่ของตัวเองนั้นไม่ใช่ แล้วตัวแม่เองก็ชอบหยิกและดึงหูเป็นประจำ ชอบทำให้ร้องไห้อยู่ด้วยความเจ็บปวดตลอดเวลา ตนเองก็เลยจำเหตุการณ์ดังกล่าวฝังใจตั้งแต่เด็กๆ
ขณะที่ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนา จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน ของ พ.ร.บ.คณะสงฆ์และกฏของเถรสมาคม ซึ่งจากกรณีของพระสุทัศน์นั้นยังไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะทำปาราชิก เพราะการที่จะทำปาราชิกนั้น ต้องกระทำผิดอย่างร้ายแรง 4 กรณี ซึ่งเหตุทำร้ายร่างกายในทางคดีความยังไม่เข้าหลักเกณฑ์ อย่างไรก็ตามสำนักพระพุทธศาสนารวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้ดูช่องทางอื่นๆ ซึ่งได้มีการวางแผนไว้แล้วแต่ขอไม่เปิดเผยถึงรายละเอียด ทั้งนี้จะยึดมติของคณะสงฆ์เป็นหลัก ล่าสุดชาวบ้านในพื้นที่ตำบลลำภู ได้มีการล่ารายชื่อเพื่อเตรียมการขับไล่อดีตเจ้าอาวาสรายนี้
ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ได้บอกเล่าถึงพฤติกรรมของพระสุทัศน์รายนี้ว่า เป็นคนที่เงียบขรึม ไม่ค่อยพูดจากับใคร เวลาช่วงเช้าก็จะขึ้นมาฉันข้าวแล้วก็ลงไป แล้วจะเข้ากุฎิและจะออกมาอีกทีก็ช่วงบ่าย แล้วที่พระสุทัศน์บอกว่าตนชอบพัฒนาวัดแต่เห็นว่าชาวบ้านต่างหากที่เป็นคนทำ ในส่วนของเงินนั้นชาวบ้านก็จะเป็นคนหา ก็จะมีการทะเลาะเบาะแว้งกับชาวบ้านหลายครั้ง เรื่องของเงินบ้างและเรื่องอื่นๆบ้าง ในส่วนของพระสุทัศน์นั้นไม่สุงสิงกับใครเลยแม้กระทั่งผู้นำในพื้นที่เอง พระสุทัศน์ชอบขัดแย้งกับชาวบ้านมาโดยตลอด โดยชาวบ้านนั้นหมดความศรัทธาไปนานแล้ว เพราะพระสุทัศน์รูปนี้เคยตบตีแม่ของตัวเอง ถึงขั้นอาการสาหัสมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่แม่ของตัวเองก็ไม่เอาเรื่อง สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ครั้งแรกที่พระสุทัศน์รูปนี้ทำร้ายแม่ของตัวเอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: