นราธิวาส-รอง มทภ.4 ตรวจเข้ม ตากใบ-โกลก ย้ำมาตรการตามนโยบายป้องกันชายแดน ส่งเสริมความร่วมมือการพัฒนาเศรษฐกิจ รองรับการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ
วันนี้ (25 มีนาคม 2565) เวลา 09.00 น. พลตรี ศานติ ศกุนตนาค รองแม่ทัพภาคที่ 4 /รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 เดินทางลงพื้นที่ อำเภอตากใบและอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ลาดตระเวนทางน้ำสำรวจเส้นทางแนวชายแดนพร้อมเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดป้องกันชายแดน และชุดปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่รักษาความมั่นคงปลอดภัยตามแนวชายแดน ทั้งทางน้ำและทางบก ตลอดระยะทางกว่า 453 กิโลเมตร เน้นย้ำนโยบายการปฏิบัติงานตามพันธกิจ 3 ประการในการป้องกันชายแดน ไม่ว่าจะเป็นการเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดน การจัดระเบียบและการสร้างความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน และการประสานความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการรองรับการเปิดประเทศของฝั่งมาเลเซีย ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ในด้านการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวหลังมีการเปิดด่านที่จะถึงในเร็ว ๆ นี้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจในการป้องกันชายแดน ยังคงต้องตรึงกำลังอย่างเข้มข้นตามนโยบายในการที่จะสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิดตามแนวชายแดน ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ยาเสพติด การขนสินค้าหนีภาษี อาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อเป็นการป้องกัน สกัดกั้นการกระทำผิดตามแนวชายแดน โดยที่ผ่านมา ประเทศไทยและมาเลเซียได้หารือแลกเปลี่ยนเพื่อส่งเสริมความร่วมมือยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทั้งสองประเทศตามแนวชายแดนด้วยดีมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ ที่จะทำคู่ขนานไปกับความมั่นคงปลอดภัย เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ
ข่าวน่าสนใจ:
- โหดเหี้ยม!หนุ่มถูกมีดฟันยับดับกลางถนน คาดทะเลาะในวงเหล้า
- หญิงไทยเสียชีวิตปริศนา แฟนต่างชาตินอนอยู่กับศพ 3 วัน ตำรวจเร่งสอบหาสาเหตุ
- ผู้กำกับ สภ.บางเสาธง เชิญตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่รถชนกันแล้วมีอ้างรู้จักตำรวจ
- DSI ร่วมบริจาคน้ำดื่มให้ท่านจุฬาราชมนตรี เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดย พลตรี ศานติ ศกุนตนาค รองแม่ทัพภาคที่ 4/ รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำนโยบายแก่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองร้อยป้องกันชายแดน และชุดปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ ว่า “ขอให้ดำรงไว้ในมาตรการต่าง ๆ ที่เข้มงวด เพราะแนวโน้มการกระทำความผิดตามแนวชายแดนมีให้เห็นอยู่ตลอด และเป็นการกระทำผิดแบบเดิมๆ คือการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งก็จะมีผู้นำพาและผู้ให้แหล่งพักพิง ตลอดจนยาเสพติดและสินค้าหนีภาษี การปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เป็นสำคัญ นอกจากหน่วยงานภาครัฐแล้วยังต้องมีผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เครือข่ายภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมผนึกกำลังยับยั้งการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบตามแนวชายแดน เจ้าหน้าที่จะต้องปรับเปลี่ยนยุทธวิธีไปตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างรู้ทัน เพื่อควบคุมบุคคลหรือสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิดผ่านเข้า-ออกตามแนวชายแดน โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ”
หลังจากนั้นได้มอบสิ่งของอุปโภคและบริโภค ให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ให้มีความมุ่งมั่นปฏิบัติงาน เสียสละเพื่อพี่น้องประชาชน ประเทศชาติ ดูแลพื้นที่เเนวชายแดนจนกว่าสถานการณ์บ้านเมืองเป็นปกติต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: